แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ปัญหากฎหมาย
ข้อสันนิษฐานเป็นข้อเท็จจริง
ศาลเดิมลงโทษจำคุก 1 ปี ตาม ม.321ศาลอุทธรณ์ แก้เป็นจำคุก 6 เดือน ตาม ม.318 คู่ความฎีกาได้แต่ในข้อกฎหมาย
ย่อยาว
โคของ ส.ปล่อยไว้ให้กินหญ้าแล้วหายไป ต่อจากวันโคหายมาประมาณ ๕ วันมีพะยานเห็น บ.แล อ.จำเลยพาโคของ ส.มา รุ่งขึ้นมาพะยานเห็นจำเลยทุกคนช่วยกันฆ่าโคนั้น
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยทุกคนมีผิดตาม ม.๓๒๑ แล พ.ร.บ.ฆ่าโคกระบือให้จำคุก อ.บ.จำเลยคนละ ๑ ปีกับปรับคนละ ๒๐ บาท ส่วน ท.ก.ส.จำเลยให้ลงโทษตาม ม.๓๒๑ ซึ่งเป็นบทหนักกะทงเดียว จำคุกคนละ ๖ เดือน
ศาลอุทธรณ์แก้ว่า ท.ก.ส.มีผิดตาม พ.ร.บ. ฆ่าโคกระบือฐานเดียว ส่วน อ. บ.วินิจฉัยว่า ย่อมจะมีโทษตาม ม.๓๑๘ หรือ ม.๓๒๑ ประการใดประการหนึ่ง ควรให้ผลทางเบาแก่จำเลย คือลงโทษตาม ม.๓๑๘ ให้จำคุก ๖ เดือน แลปรับฐานฆ่าโคไม่ได้รับอนุญาต ๑๕ บาท
ศาลฎีกาว่า คดีฉะเพาะตัว ท.ก.ส. จำเลยนั้นศาลอุทธรณ์ตัดสินชอบแล้วส่วนคดีฉะเพาะ อ.บ.จำเลยนั้นโจทก์ฎีกาได้แต่ในปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ตามฎีกาโจทก์ว่าจำเลยควรมีผิดฐานลักหรือรับของโจรนั้น เป็นเพียงข้อสันนิษฐานแลข้อสันนิษฐานนี้เป็นข้อเท็จจริง ฎีกาไม่ได้ ส่วนปัญหาที่โจทก์ว่า ศาลอุทธรณ์ควรวางโทษจำเลยในบทที่หนักนั้น ศาลอุทธรณ์ก็มิได้วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดหลายบทหรือหลายกะทง เป็นแต่ว่าจำเลยย่อมจะมีโทษเก็บของตกหรือรับของโจรประการใดนั้นเป็นการสันนิษฐานในข้อเท็จจริง คดีไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย ให้ยกฎกาโจทก์