แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่ศาลมีคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกให้ชำระเงินและมีการโต้แย้งระหว่างโจทก์กับผู้ร้องในปัญหาที่ว่าจะอายัดได้หรือไม่ เพียงใดเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1590/2503)
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยและศาลชั้นต้นมีคำสั่งชั่วคราวก่อนพิพากษาตามคำขอของโจทก์ให้อายัดเงินค่าก่อสร้างตึกแถวงวดสุดท้ายที่ผู้ร้องกับพวกจะต้องจ่ายแก่จำเลย ต่อมาจำเลยทำยอมความยอมใช้หนี้และศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งอายัดชั้นบังคับคดีโดยสั่งให้ผู้ร้องผู้ถูกอายัดนำเงิน 22,000 บาทที่จะต้องชำระแก่จำเลยมาชำระและส่งมอบให้เจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 3 วัน
ผู้ร้องร้องคัดค้านว่าได้จ่ายเงินค่าก่อสร้างให้นายสมนึกไปก่อนแล้วจำเลยไม่ใช่คู่สัญญา และเงินค่าก่อสร้างงวดสุดท้ายเป็นเงิน 21,743 บาทเท่านั้น
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความ แล้วงดไต่สวนและมีคำสั่งให้ผู้ร้องนำเงินค่าก่อสร้างงวดสุดท้ายจำนวน 21,743 บาทมาส่งมอบแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นสอบถามยังไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยและมีคำสั่งชี้ขาดได้ มีคำสั่งให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนคำร้องคัดค้านของผู้ร้อง แล้วมีคำสั่งชี้ขาดใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน และวินิจฉัยในปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมชั้นฎีกาว่า อนึ่ง ปรากฏว่าในชั้นฎีกานี้ศาลชั้นต้นสั่งเรียกค่าขึ้นศาลมาอย่างคดีมีทุนทรัพย์ซึ่งยังไม่ถูกต้อง เพราะคดีนี้เป็นคดีอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยต่อผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกให้ชำระเงิน ในปัญหาที่ว่าจะอายัดได้หรือไม่เพียงใดเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ซึ่งต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 50 บาท ตามแบบอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 1590/2503 ให้ศาลชั้นต้นคืนค่าขึ้นศาลที่เรียกเกินมาให้โจทก์ไป