คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9114/2552

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม อาวุธปืน พ.ศ.2490 ให้ข้อ 1.7 ว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืน คือ กระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มิลลิเมตร (LUGER) จำนวน 598 นัด และกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด .45 (11 มิลลิเมตร) จำนวน 50 นัด ซึ่งเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ไว้ในครอบครองของจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายไว้ครบถ้วนแล้วว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม อาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคสอง แต่ในคำขอท้ายฟ้องกลับขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียม อาวุธปืน พ.ศ.2490 8, 72 ทวิ โดยเป็นบทลงโทษผู้มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ จึงเห็นได้ว่าโจทก์อ้างบทมาตราผิด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ทั้งนี้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคห้า กรณีมิใช่ฟ้องไม่ครบองค์ประกอบความผิดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8, 72 ทวิ พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91 ริบของกลาง และจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยขอถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8, 72 ทวิ วรรคหนึ่ง พระราชบัญญติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 วรรคสอง, 4 ทวิ วรรคหนึ่ง, 10, 12 (1) (2) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท ฐานเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโดยเป็นเจ้ามือรับจ่าย รวม 6 กระทง จำคุกกระทงละ 4 เดือน และฐานลักลอบเล่นการพนันสลากกินรวมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 15 เดือน และปรับ 11,000 บาท ริบของกลาง และให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 วรรคสอง, 4 ทวิ วรรคหนึ่ง, 12 (1) (2) ให้ลงโทษปรับ 1,000 บาท ในความผิดฐานเป็นเจ้ามือการพนันผลฟุตบอลอีกสถานหนึ่งจำนวน 6 กระทง รวมปรับ 6,000 บาท เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 3,000 บาท และเมื่อรวมโทษจำคุกในความผิดฐานเป็นเจ้ามือการพนันผลฟุลบอลและโทษปรับในความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว เป็นจำคุก 12 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ให้คุมความประพฤติของจำเลยไว้ตลอดระยะเวลารอการลงโทษ โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้ง ตามเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรกำหนด กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรกำหนด 12 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานมีกระสุนปืน ไม่ริบกระสุนปืนของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่า ข้อหามีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต แต่ขอให้ลงโทษตามมาตรา 8, 72 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ศาลสามารถลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคห้า นั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ในข้อ 1.7 ว่า จำเลยมีเครื่องกระสุนปืน คือ กระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มิลลิเมตร (LUGER) จำนวน 598 นัด และกระสุนปืนออโตเมติกขนาด .45 (11 มิลลิเมตร) จำนวน 50 นัด ซึ่งเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ไว้ในครอบครองของจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมาย ฟ้องโจทก์ดังกล่าวได้บรรยายไว้ครบถ้วนแล้วว่าจำเลยกระทำความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคสอง แต่ในคำขอท้ายฟ้องกลับขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8, 72 ทวิ โดยเป็นบทลงโทษผู้มีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ จึงเห็นได้ว่าโจทก์อ้างบทมาตราผิด เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคห้า กรณีมิใช่ฟ้องไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น ส่วนข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้รอการลงโทษ โจทก์ไม่ได้ฎีกาในส่วนนี้ จึงถึงที่สุดไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงให้รอการลงโทษในความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 72 วรรคสอง อีกกระทงหนึ่ง จำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 10,000 บาท เมื่อรวมกับโทษจำคุกและปรับในความผิดฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 แล้วเป็นจำคุก 15 เดือน และปรับ 14,000 บาท ริบกระสุนปืนของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share