คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องขอให้ศาลสั่งว่า ผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของ ม.มิได้มีคำขอเกี่ยวกับทรัพย์สิน จึงไม่มีเหตุที่จะคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ทั้งเมื่อศาลตัดสินให้ผู้ร้องชนะ ผู้คัดค้านก็ไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาแต่อย่างใดไม่จำเป็นจะสั่งอายัดเงินบำเหน็จตกทอดและบำนาญพิเศษของ ม.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องยื่นคำร้องให้ศาลสั่งว่า เด็กหญิงเอื้องฟ้า พุ่มมูล ผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของพันโทมงคลผู้ตาย และผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้อายัดเงินบำเหน็จตกทอดบำนาญพิเศษและเงินอื่นของพันโทมงคล ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้อายัดเงินบำเหน็จตกทอดของพันโทมงคลไว้ก่อน

ผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนหมายอายัดบำเหน็จตกทอด และบำนาญของพันโทมงคล ศาลชั้นต้นสั่งเพิกถอนคำสั่งอายัดให้

ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น

ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าคดีเดิมที่ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่า ผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายมงคล หรือพันโทมงคลนั้น ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2522 ว่า นางสาวเอื้องฟ้าผู้เยาว์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจ่าสิบเอกมงคลหรือพันโทมงคลบิดาผู้วายชนม์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2519 มาตรา 1555 คดีถึงที่สุดโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำขอท้ายคำร้องของผู้ร้องในคดีเดิมมิได้มีคำขอเกี่ยวกับทรัพย์สิน จึงไม่มีเหตุที่จะคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ทั้งเมื่อศาลตัดสินให้ผู้ร้องชนะ ผู้คัดค้านก็ไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาแต่อย่างใด ไม่จำเป็นจะสั่งอายัดเงินบำเหน็จตกทอดและบำนาญพิเศษของจ่าสิบเอกมงคลหรือพันโทมงคล

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share