แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 76 จำคุกหนึ่งปีหกเดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาตตามบทกฎหมายมาตราเดียวกัน ลงโทษจำคุกหนึ่งปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ฎีกาในปัญหาว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 หนัก 80 กรัม ไว้เพื่อจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไปและมีอุปกรณ์ในการเสพยาเสพติดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 76, 102,103 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26, 76, 102, 103 ลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุกสองปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุกหนึ่งปีหกเดือนของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 26 วรรคแรก, 76, 102, 103 ลงโทษจำคุกหนึ่งปีหกเดือน จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกหนึ่งปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 76 จำคุกหนึ่งปีหกเดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามบทกฎหมายมาตราเดียวกัน ลงโทษจำคุกหนึ่งปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
พิพากษายกฎีกาโจทก์