คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติกาพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก
(1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ
(2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ”
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆ ในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่วันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัว กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้ง 7/2522)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมเล่นการพนันป๊อกตามบัญชี ก. อันดับ ๒๑ (ที่ถูกอันดับ ๑๑) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยเป็นผู้เข้าเล่น ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ปรับ ๑,๐๐๐ บาท จำคุก ๔๔ วัน โทษจำรอไว้ ๒ ปี จำเลยพ้นโทษในคดีดังกล่าวยังไม่ครบ ๓ ปี มากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยต้องโทษมาจริงดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งปรับ ๕๐๐ บาท ส่วนคำขอให้เพิ่มโทษนั้นปรากฏว่าจำเลยกระทำความผิดคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด ๓ ปี นับแต่กระทำความผิดครั้งก่อนแล้ว จึงให้ยกคำขอให้เพิ่มโทษของโจทก์เสีย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๔๕ วัน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ ๒ ปี โดยศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๑๗ จำเลยได้มากระทำผิดในคดีนี้อีก และวินิจฉัยว่า มาตรา ๑๔ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ บัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด ๓ ปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก
(๑) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ
(๒) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกหรือปรับ ให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ”
คำว่าพ้นโทษตามมาตรา ๑๔ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ ดังกล่าวข้างต้น ก็คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆ ในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้ และการเพียงแต่รอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งเมื่อครบ ๒ ปี ตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัว ทั้งตามมาตรา ๕๘ วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายอาญา ก็บัญญัติไว้ด้วยว่า ถ้าภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดตามมาตรา ๕๖ ผู้นั้นมิได้กระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรกของมาตรา ๕๘ นั้น ก็ให้ผู้นั้นพ้นจากการที่จะถูกลงโทษในคดีนั้น ซึ่งก็แสดงอยู่ชัดแจ้งว่าผู้นั้นหรือจำเลยไม่เคยถูกลงโทษมาก่อนนั่นเอง กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วยังไม่ครบ ๓ ปี มากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันนี้อีก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิ พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๔๘๕ มาตรา ๓ ไม่ได้
พิพากษายืน

Share