แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คดีที่มีอัตราโทษจำคุก ศาลจะต้องสอบถามจำเลยก่อนเริ่มพิจารณาว่ามีและต้องการทนายความหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 วรรคสองเมื่อไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงไม่ถูกต้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบสองตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83 ริบของกลาง และจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสิบสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสิบสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นจำคุก 2 เดือน จำเลยที่ 2ฐานเป็นเจ้ามือจำคุก 2 เดือน จำเลยที่ 3 ถึงที่ 12 ปรับคนละ 2,000 บาทแม้จำเลยทั้งสิบสองให้การรับสารภาพก็ไม่ลดโทษให้ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางและให้จำเลยที่ 3 ถึงที่ 12 จ่ายเงินสินบนนำจับคนละกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้เป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุก จึงเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะต้องสอบถามจำเลยทั้งสิบสองก่อนเริ่มพิจารณาว่ามีและต้องการทนายความหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 173 วรรคสอง ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้ว การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นจึงไม่ถูกต้อง จำเป็นต้องดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และศาลชั้นต้นย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 วรรคสอง แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ตามรูปคดีต่อไป