คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนันโปปั่นและเจ้ามือตาม พ.ร.บ.การพนันฯ มาตรา 4 วรรคแรก, 12 (1) มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 500 บาทถึง 5,000 บาท ศาลล่างใช้ดุลพินิจวางโทษก่อนลดให้จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 2 เดือน จึงเป็นการลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กฎหมายบัญญัติไว้แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามกฎหมายได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบสี่ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบของกลางและให้จำเลยทั้งยี่สิบสี่จ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งยี่สิบสี่ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งยี่สิบสี่มีความผิดตามฟ้องรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง สำหรับจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าสำนัก จำคุก 1 เดือน จำเลยที่ 2 ฐานเป็นเจ้ามือ จำคุก 1 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 ถึงที่ 24 ปรับคนละ 2,500 บาท พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เป็นการเล่นพนันบ่อนใหญ่ มีการใช้ชิปแลกเงิน แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เป็นอาชีพ สมควรปราบปรามอบายมุขนี้อย่างจริงจัง จึงไม่สมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง และให้จำเลยที่ 3 ถึงที่ 24 จ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งยี่สิบสี่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 วรรคแรก, 10, 12 (1), 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นเจ้าสำนัก จำคุก 2 เดือน จำเลยที่ 2 ฐานเป็นเจ้ามือ จำคุก 2 เดือน ส่วนจำเลยที่ 3 ถึงที่ 24 ปรับคนละ 5,000 บาท จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง สำหรับโทษที่ลดแล้วและนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยทั้งยี่สิบสี่คนได้พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นการพนันโปปั่น 1 ชุด โต๊ะสำหรับใช้บอกแต้ม 1 ตัว เก้าอี้ 25 ตัว เงินสด 360 บาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งยึดได้ชิปแลกเงิน ราคา 50 บาท 15 อัน และชิปแลกเงิน ราคา 10 บาท 16 อัน พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันในลักษณะเป็นบ่อนการพนันรายใหญ่ซึ่งมีผู้เข้าเล่นพนันเป็นจำนวนมากและกระทำเป็นอาชีพ โดยมีจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้นำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกัน จึงนับเป็นเรื่องที่ร้ายแรง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 นั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ความผิดฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโปปั่นและเจ้ามือ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4 วรรคแรก, 12 (1) มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 500 บาทถึง 5,000 บาท ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจวางโทษก่อนลดให้จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 2 เดือน จึงเป็นการลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต่ำกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่เนื่องจากโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาจึงไม่อาจแก้ไขกำหนดโทษให้เป็นไปตามบทกฎหมายดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225”
พิพากษายืน

Share