คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งทั่วไปกรมศุลกากรที่47/2531เป็นระเบียบภายในของจำเลยเท่านั้นจะนำมาเป็นหลักเกณฑ์ว่าราคาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้มีหรือประเมินราคาไปนั้นเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดโดยไม่คำนึ่งถึงบทกฎหมายไม่ได้เพราะ”ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด”มีบทวิเคราะห์ศัพท์ในพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ.2469มาตรา2วรรคสิบสองเมื่อสินค้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยนำมาเทียบเคียงราคากับสินค้าพิพาทไม่ได้เป็นเหล็กประเภทและชนิดเดียวกันขนาดหน้าตัดและความยาวของเหล็กก็ต่างกันมาไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้ย่อมไม่อาจหักล้างว่าราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าไม่ใช่ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่า ราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงไว้ก่อนถูกประเมินเพิ่มเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด สินค้าโจทก์จัดอยู่ในพิกัดประเภทที่ 7207.20 อัตราอากรร้อยละ 25 ลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังเหลือร้อยละ 10 และการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เพิกถอนการประเมินดังกล่าวเสีย กับให้จำเลยคืนเงินแก่โจทก์ 3,738,629.27บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระคืนแก่โจทก์เสร็จ
จำเลย ให้การ ว่า คดี โจทก์ ขาดอายุความ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลาง พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์ ต่อ ศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า คำสั่งทั่วไปกรมศุลกากรที่ 47/2531 เป็นระเบียบปฎิบัติภายในของจำเลยเท่านั้นซึ่งจะนำมาเป็นหลักเกณฑ์ว่าราคาที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ตีหรือประเมินไปนั้นเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดยังไม่ได้เพราะคำว่า “ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด” นั้น ได้มีบทวิเคราะห์ไว้ในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 2 วรรคสิบสอง ว่าคำว่า “ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด” หรือ “ราคา” แห่งของอย่างใดนั้น หมายความว่า ราคาขายส่งเงินสด (ในส่วนของขาเข้าไม่รวมค่าอากร) ซึ่งจะพึงขายของประเภทและชนิดเดียวกันได้โดยไม่ขาดทุน ณ เวลา และที่ที่นำของเข้าหรือส่งของออกแล้วแต่กรณีโดยไม่มีหักทอนหรือลดหย่อนราคาอย่างใด” ดังนั้นคำสั่งทั่วไปกรมศุลกากรที่ 47/2531 จึงจะนำมาเป็นข้อกำหนดในการประเมินราคาสินค้าพิพาทเพียงลำพัง โดยไม่คำนึงถึงบทกฎหมายไม่ได้จะต้องปฎิบัติตามบทวิเคราะห์ในพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469เป็นหลัก เมื่อสินค้าที่นำมาเทียบเคียงราคากับสินค้าพิพาทนั้นไม่ได้เป็นหลักประเภทและชนิดเดียวกัน ขนาดหน้าตัดและความยาวของเหล็กก็ต่างกันมากจนไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้เพราะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมาตรา 2 วรรคสิบสองดังกล่าวเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยไม่ได้นำราคาของเหล็กประเภทและชนิดเดียวกัน ณ เวลา และสถานที่ที่นำของเข้ามาจากที่เดียวกันเทียบเคียงกันแล้ว ก็ย่อมไม่อาจหักล้างได้ว่าราคาสินค้าตามที่โจทก์สำแดงในใบขนสินค้าขาเข้า และแบบแสดงรายการการค้าไม่ใช่ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด ดังนั้นการประเมินราคาสินค้าเพิ่มเพื่อเรียกเก็บอากรขาเข้าของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษาแก้เป็นว่าให้เพิกถอนการประเมินเฉพาะส่วนที่จำเลยประเมินราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ให้คืนเงินค่าอากรส่วนที่เกินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง

Share