คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนร้ายหลายคนร่วมใจกันเข้าลักทรัพย์แล้วแบ่งหน้าที่กันยกขนรับส่ง ดังนี้ คนร้ายทุกคนเป็นตัวการในการลักทรัพย์ด้วยกัน
แต่ในกรณีที่คนในโรงงานนัดหมายให้คนนอกโรงงานมารับเอาทรัพย์ที่ตนลักได้มาแล้วให้ช่วยพาไปเสียให้พ้น ดังนี้การลักทรัพย์ได้สำเร็จสิ้นแล้ว การกระทำของคนนอกโรงงานเป็นการอุปการะภายหลังการกระทำผิด จึงไม่ผิดฐานเป็นตัวการลักทรัพย์รายนั้นด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานสมคบกันลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓,๒๙๔,๖๓ โดยกล่าวว่าจำเลยสมคบกันลักยาสูบซิกาแรตของโรงงานยาสูบสรรพสามิตต์ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทุกคนผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๒๙๔ จำคุกคนละ ๒ ปี จำเลยที่ ๗ เป็นเด็กอายุ ๑๕ ปีให้ลงโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑ ปี
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๖ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สำหรับจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๗ เป็นแต่รอรับบุหรี่อยู่นอกรั้วโรงงาน ผิดฐานรับของโจร ซึ่งโจทก์มิได้ฟ้อง จึงพิพากษาแก้ ให้ปล่อยจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๗ นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๔ ถึงที่ ๗ ตามฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้รูปเรื่องไม่ปรากฎว่าเป็นเรื่องที่คนร้ายหลายคนร่วมใจกันเข้าลักทรัพย์แล้วแบ่งหน้าที่กันยกขนรับส่ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น จำเลยทั้งสิ้นก็จะต้องเป็นตัวการด้วยกัน แต่กรณีนี้ที่ปรากฎนี้ เป็นเรื่องที่คนงานในโรงงานนัดหมายให้คนภายนอกโรงงานมารับเอาทรัพย์ที่ตนลักได้มาแล้ว ช่วยพาไปเสียให้พ้น การลักทรัพย์ของจำเลยที่ ๑-๒-๓ ได้สำเร็จเสร็จสิ้นลงแล้ว การกระทำของจำเลยที่ ๔-๕-๖-๗ จึงเป็นการอุปการะภายหลังการกระทำผิด จริงอยู่แม้จำเลยทั้งนี้จะได้เห็นการกระทำผิดลักทรัพย์นั้นอยู่ก็ดี แต่จะเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้ร่วมลงมือในการกระทำผิดนั้นด้วย จำเลยรับและช่วยพาเอาทรัพย์นั้นไปภายหลังเมื่อมีการลักทรัพย์สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว คดีจึงลงโทษจำเลยที่ ๔-๕-๖-๗ ฐานสมคบกับจำเลยที่ ๑-๒-๓- ลักทรัพย์ด้วยไม่ได้
จึงพิพากษายืน

Share