แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องขับไล่จากที่ให้อาศัย โดยไม่ได้ระบุว่าถ้าให้ที่นั้นเช่าจะได้ค่าเช่าเดือนละเท่าไร อันจะเป็นข้อชี้ว่าเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญนั้น ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องจำเลยหลายคนมาในคดีเดียวกัน มาในชั้นฎีกาแม้จำเลยจะยังยกเป็นข้อต่อสู้อยู่อีกแต่เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อต่อสู้นี้ไม่เป็นข้อแพ้ชนะกัน ศาลฎีกาจะไม่วินิจฉัยก็ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 6 เป็นเจ้าของร่วมในโรงถ่านหลังหนึ่งซึ่งขออาศัยปลูกในที่ดินโจทก์ โจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยอยู่ต่อไปได้บอกกล่าวแล้ว จำเลยขัดขืนจึงขอให้ขับไล่
จำเลยที่ 1, 2, 3, 5 และ 6 ต่อสู้ว่า ไม่ใช่เจ้าของร่วมโรงพิพาท ต่างได้รับโอนจากเจ้าของเดิมมาคนละห้อง จำเลยที่ 4 ได้รับโอน 2 ห้อง ต่างครอบครองแยกกันตามส่วนของตน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยรวมเป็นสำนวนเดียวกัน กับคัดค้านว่าฟ้องเคลือบคลุมไม่แสดงให้แจ้งชัดว่าค่าเช่าที่ดินจะได้จากที่ให้อาศัยเป็นเงินเท่าไร ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญ ส่วนจำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่
จำเลยที่ 1, 2, 3, 5 และ 6 อุทธรณ์โดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1, 2, 3, 5 และ 6 ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า (1) โจทก์ได้บรรยายฟ้องแจ้งชัดแล้ว การที่โจทก์ไม่ได้ระบุว่าที่อาศัยนั้นถ้าให้เช่าจะได้เดือนละเท่าใดซึ่งจะเป็นคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญ ยังไม่พอจะถือว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม
(2) ส่วนที่จำเลยคัดค้านว่าโจทก์จะรวมฟ้องจำเลยเป็นคดีเดียวไม่ได้นั้น ไม่จำต้องวินิจฉัย เพราะไม่เป็นเรื่องที่ทำให้เป็นข้อแพ้ชนะกัน พิพากษายืน