คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยาง ในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 โดยมิได้บรรยายเรื่องประมาทมาด้วย เมื่อศาลฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการเผาที่ไม่น่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่น หากแต่เป็นการประมาทปราศจากการระมัดระวังเพลิงจึงลุกลามเข้าไปในสวนของผู้อื่น เช่นนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225 ไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจุดเผาขยะและใบไม้กิ่งไม้แห้งในสวนยางพาราของจำเลยในลักษณะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น โดยจำเลยไม่ได้เตรียมกำลังคนและเครื่องมือในการดับเพลิงไว้ให้พร้อมเปลวไฟได้ลุกลามไหม้สวนของจำเลยและสวนของผู้อื่นที่อยู่ติดต่อกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๐
จำเลยให้การต่อสู้ว่า ไฟไหม้มาจากที่อื่น
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงไม่แน่ว่าไฟไหม้มาจากไหน และว่าฟ้องของโจทก์ตามมาตรา ๒๒๐ ต้องเป็นเรื่องกระทำโดยเจตนาจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่นแต่ตามที่โจทก์นำสืบเป็นเรื่องจำเลยไม่ดูแลระมัดระวังในการเผา ไฟจึงลุกลามขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องประมาท ลงโทษตามฟ้องไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีฟังได้ว่าจำเลยจุดเผาในลักษณะจนน่าเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น มิใช่เรื่องประมาท พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยจุดเผาในลักษณะที่ไม่น่ากลัวจะเกิดอันตรายแก่ทรัพย์ของผู้อื่น แต่การที่เกิดเสียหายไฟลุกลามไปไหม้ทรัพย์ของผู้เสียหายขึ้นนั้น เพราะจำเลยประมาทปราศจากความระมัดระวัง แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องกล่าวถึงการประมาทและไม่ได้อ้างกฎหมายเรื่องการประมาท ดังนั้น แม้จะได้ความว่าจำเลยกระทำโดยประมาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๙๒ จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๒๕ ไม่ได้ ตามแบบอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๔๖/๒๔๙๘ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share