แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ดิน โฉนดแผนที่ เจ้าพนักงานออกโฉนดให้ราษฎรกินเข้าไปในที่สาธารณะผู้เปนเจ้าของโฉนดไม่ได้ที่ตอนนั้นเปนกรรมสิทธิ วิธีพิจารณาแพ่ง อำนาจฟ้องปิดคลองสาธารณะประโยชน์ทำให้การใช้น้ำทำนาไม่สดวกผู้เสียหายมีอำนาจเปนโจทก์ฟ้องได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ การวินิจฉัยปัญหากฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์เทียบฎีกาที่ 751/70
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์จำเลยต่างถมลำคลองสีจันสำหรับสาธารณะประโยชน์ในการทำนา และยึดถือเอาที่ดินในลำคลองนั้นเปนประโยชน์ของตน ศาลเดิมจึงตัดสินให้โจทก์จำเลยขุดคลองตามที่ตนถมให้ดีดังเก่า แต่ศาลอุทธรณ์แก้ในข้อที่บังคับให้โจทก์ขุดคลองด้วยนั้นให้ยกเสีย เพราะไม่มีผู้เสียหายเปนโจทก์ฟ้องร้อง นอกนั้นยืนตาม
จำเลยฎีกาว่า ๑. คลองตื้นเขินโดยสภาพ แลเจ้าพนักงานแก้แผนที่หลังโฉนดกินไปถึงคลองให้จำเลยแล้ว ย่อมใช้ได้ตามกฎหมาย ๒. การที่เอกชนเข้ายึดถือกรรมสิทธิในที่สาธารณะประโยชน์ ใครจะเปนผู้มีสิทธิฟ้อง ๓. เมื่อพิจารณาไม่ตรงตามฟ้อง ศาลจะตัดสินบังคับจำเลยไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า การวินิจฉัยข้อกฎหมายต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่าจำเลยได้ถมคลองสาธารณะ และถึงแม้เจ้าพนักงานจะออกโฉนดให้จำเลยกินไปถึงคลองก็ดี ก็หาทำให้จำเลยมีสิทธิจะยึดคลองสาธารณะประโยชน์ไว้เปนกรรมสิทธิไม่ ส่วนฎีกาข้อ ๒ นั้น เมื่อโจทก์เปนผู้เสียหายเพราะการกระทำของจำเลยโดยตรงแล้ว ก็มีสิทธิฟ้องได้ จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์