คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้จำนองตกลงขายที่ดินที่จำนองให้แก่ผู้รับจำนองโดยให้เงินที่ค้างชำระเป็นการชำระราคานั้น ถือว่าเป็นการแปลงหนี้ใหม่แล้ว สิทธิขอไถ่ถอนก็ย่อมเป็นอันระงับไป,
จำเลยอุทธรณ์ว่าศาลแขวงพิพากษาให้จำเลยแพ้โดยไม่สืบพะยานไม่ชอบ ขอให้กลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดังนี้ ตีความได้ว่าขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงและสั่งให้ศาลนั้นโอนคดี,
ในกรณีที่มีการอุทธรณ์และฎีกาแล้วขอให้โอนคดีนั้น ศาลฎีกาให้คู่ความไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง

ย่อยาว

จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ขายที่จำนองกับที่อีกแปลงหนึ่งให้จำเลยโดยให้หนี้จำนองที่ค้างเป็นการชำระราคาส่วนหนึ่งกับจำเลยเพิ่มเงินให้อีก ๕๐๐ บาท จำเลยได้ชำระเงิน ๕๐๐ บาทและโจทก์มอบที่ให้จำเลยแล้ว แต่ยังไม่โอนให้จำเลยจึงฟ้องแย้งให้โจทก์โอนที่ดิน
โจทก์ให้การปฎิเสธฟ้องแย้ง
ศาลแขวงงดสืบพยานแล้วตัดสินว่า โจทก์ขอไถ่โดยชอบแล้ว จำเลยปฎิเสธไม่ยอมรับชำระหาชอบไม่ ส่วนฟ้องแย้งนั้นโจทก์ปฎิเสธและมีที่แปลงอื่นอยู่ด้วย และคดีไม่เกี่ยวกันกับจำนอง ทั้งจะพิจารณารวมกันไม่สะดวก จึงให้จำเลยรับไถ่จำนอง ส่วนฟ้องแย้งให้คืนไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาล-ีกาเห็นว่า ถ้าเป็นจริงดังจำเลยว่าก็ได้แปลงหนี้จำนองมาเป็นสัญญาซึ่งโจทก์จะขายที่ให้จำเลยโดยหักกับหนี้ที่ค้างและจำเลยต้องเพิ่มเงินให้อีก สิทธิไถ่คืนของโจทก์ก็ย่อมระงับไป แต่ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจะโอนคดีนี้ไปรวมกับคดีเรื่องบังคับให้ขายที่ให้จำเลยตามวิธีพิสารณาความแพ่งมาตาร ๒๘ ไม่ได้ เพราะคดีนี้พิพากษาแล้วนั้นศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยกล่าวในอุทธรณ์ว่าศาลแขวงให้จำเลยแพ้โดยไม่สืพพยานไม่ชอบ ขอให้พิพากษากลับศาลแขวงสั่งให้ศาลนั้นโอนคดีดั่งนี้ ตีความได้ว่าจำเลยขอให้ยกคำพิพากษาศาลแขวงแล้วสั่งศาลนั้นโอนคดี ศาลฎีกาจึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแขวง ให้ศาลแขวงพิจารณา พิพากษาใหม่ ส่วนการโอนคดียังไม่ควรสั่ง จึงเปิดโอกาศให้ไปว่ากล่าวกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง

Share