แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หญิงมีสามีได้รับเงินไว้จากการขายทรัพย์ซึ่งสัญญาเป็นโมฆียะเพราะทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีบอกล้างนิติกรรมแล้ว หญิงต้องคืนเงินนั้นตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.138 ไม่ใช่คืนในฐานะลาภมิควรได้
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้สินผู้ตายจากผู้รับมรดก ศาลจะตัดสินให้กองมฤดกใช้เงินไม่ได้ต้องตัดสินให้จำเลยใช้เงินในฐานะเป็นผู้รับมฤดกของผู้ตาย
ตัวแทนของหญิงมีสามีได้รับเงินไว้แทนหญิงเท่าไร เมื่อนิติกรรมถูกบอกล้างแล้วหญิงก็ต้องคืนเงินเต็มจำนวนที่ตัวแทนได้รับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหญิงจะได้รับเงินจากตัวแทนเท่าไร
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นฟังว่า คดีนี้เนื่องจากคดีที่ศาลพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินระหว่างโจทก์กับนางเจิ่ง (เพราะเป็นโมฆียะตาม ป.ม.แพ่งฯ ม.๓๘) ก่อนทำสัญญาซื้อขายโจทก์กับนางผินนำเงินไปไถ่ที่รายนี้จากนางไกร เพราะจำนองนางไกรไว้เมื่อทำสัญญาซื้อขายแล้วได้หักเงินรายนี้เป็นราคาที่ดินส่วนเงินราคาที่เหลือโจทก์มอบให้นางผินๆ มอบให้นายเปลื้องเวลานั้นนางเจิ่งตายแล้ว ไม่ปรากฎว่านายเปลื้องเป็นผู้รับมฤดกนางเจิ่ง กองมฤดกไม่ต้องรับผิดคืนเงินรายนี้ จึงพิพากษาให้กองมฤดกนางเจิ่งคืนเงินเพียง ๑๓๒๖ บาท ๒๕ สตางค์ ซึ่งเป็นเงินไถ่จำนอง
โจทก์จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนเงินราคาที่ดินทั้งหมดคือ ๒๕๐๐ บาท
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้มิใช่เรื่องลาภมิควรได้ตาม ม.๔๐๖ เพราะสัญญาระหว่างโจทก์กับนางเจิ่งเป็นเพียงโมฆียะตาม ม.๓๘ จะถือว่าเป็นโมฆะตาม ม.๑๓๘ วรรค ๑ ก็ตาม แต่เวลาชำระเงินกัน นางเจิ่งมีมูลอันจะอ้างกฎหมายได้เรื่องนี้เป็นกรณีตาม ม.๑๓๘ วรรค ๓ ถ้าถือเป็นลาภมิได้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเขียนไว้ใน ม.๑๓๘ วรรค ๓ และการที่โจทก์ชำระเงินแก่นางผินตัวแทนนางเจิ่งก็เท่ากับชำระแก่นางเจิ่งเอง โจทก์จึงเรียกจากกองมฤดกนางเจิ่งได้ แต่ศาลล่างพิพากษาให้กองมฤดกคืนเงินนั้นไม่ถูก กองมฤดกไม่ใช่นิติบุคคล ทายาทต่างหากเป็นผู้รับผิดในหนี้สินของผู้ตาย (ตามป.ม.แพ่งฯ ม.๑๖๐๑,๑๗๓๗) จึงพิพากษาแก้ให้นายเจริญจำเลยในฐานะผู้รับมฤดกนางเจิ่งใช้เงินแก่โจทก์ ๒๕๐๐ บาท