คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7022/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การตั้งตัวแทนจะต้องมีการแต่งตั้งจากตัวการโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้มีอำนาจทำการแทนตัวการตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 797 บัญญัติไว้ ไม่ปรากฏว่าโจทก์แต่งตั้งจำเลยร่วมเป็นตัวแทน แต่จำเลยร่วมให้การว่าเป็นตัวแทนหรือนายหน้าของจำเลยที่ 1 ในการขายรถคันที่ให้เช่าซื้อให้แก่บุคคลภายนอก บันทึกข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมทำไว้ต่อกันก็เป็นเพียงแต่จำเลยที่ 1 ตกลงให้จำเลยร่วมครอบครองรถคันที่เช่าซื้อต่อจากจำเลยที่ 1 เท่านั้น มิใช่เรื่องที่โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยร่วมไปดำเนินการ การที่จำเลยร่วมรับมอบรถคันที่เช่าซื้อไว้จากจำเลยที่ 1 จึงเป็นการรับมอบในฐานะตัวแทนหรือนายหน้าของจำเลยที่ 1 ในการขายรถให้แก่บุคคลภายนอก มิใช่ในฐานะตัวแทนของโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดส่งมอบรถคันพิพาทให้แก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันส่งมอบรถคันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 384,735 บาท และค่าขาดประโยชน์ 165,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 165,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 10,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบรถคืนหรือใช้ราคาแทนเสร็จสิ้น
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นหมายเรียกนายฉัตรชัยเข้าเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยร่วมให้การขอให้ศาลพิพากษายกคำร้องของจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมส่งมอบรถคันที่เช่าซื้อคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อยและใช้การได้ดี หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 280,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะส่งมอบรถหรือใช้ราคาแทน และใช้ชำระค่าขาดประโยชน์จำนวน 65,500 บาท แก่โจทก์ด้วย ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยทั้งสอง ให้จำเลยร่วมชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 6,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้จำเลยร่วมใช้แทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ราคาเป็นเงิน 150,000 บาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 132,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายเดือนละ 8,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหรือใช้ราคาแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 10,000 บาท ให้ยกฟ้องจำเลยร่วม ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลสำหรับจำเลยร่วมให้เป็นพับ
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยทั้งสองต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ โดยจำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า เมื่อโจทก์มีหนังสือทวงถามจำเลยที่ 1 ได้แจ้งให้โจทก์มารับรถคันที่เช่าซื้อคืนไป และจำเลยร่วมเป็นผู้มารับรถแทนโจทก์ไปแล้วตามบันทึกข้อตกลง จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์อีก เห็นว่าการที่จะเป็นตัวแทนได้นั้น จะต้องมีการแต่งตั้งจากตัวการโดยการแสดงออกชัดหรือโดยปริยายให้มีอำนาจทำการแทนตัวการตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 บัญญัติไว้ แต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ปรากฏว่า โจทก์ได้แต่งตั้งจำเลยร่วมเป็นตัวแทนแต่อย่างใด ซึ่งจำเลยร่วมก็ได้ให้การว่า จำเลยร่วมไม่ได้เป็นตัวแทนของโจทก์ แต่เป็นตัวแทนหรือนายหน้าของจำเลยที่ 1 ในการขายรถคันที่เช่าซื้อให้แก่บุคคลภายนอก ส่วนที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่าจำเลยร่วมอ้างว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ทำให้จำเลยทั้งสองหลงเชื่อ ทั้งในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยร่วมยังได้ติดต่อกับโจทก์แจ้งความประสงค์จะเจรจาทำยอม และจำนำรถคันที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์นั้น ไม่ทำให้ฟังได้ว่าจำเลยร่วมเป็นตัวแทนของโจทก์ บันทึกข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมทำไว้ต่อกัน ก็เป็นเพียงแต่จำเลยที่ 1 ตกลงให้จำเลยร่วมครอบครองรถคันที่เช่าซื้อต่อจากจำเลยที่ 1 การที่จำเลยร่วมรับรองไว้ในบันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าวว่า จะรับผิดชอบต่อการผูกพันที่มีอยู่กับโจทก์ทุกกรณี และจะรับผิดชอบต่อความเสียหายอันเกิดแก่รถคันที่เช่าซื้อ รวมทั้งจะรีบดำเนินการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 6 เดือนนั้น มิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์มอบอำนาจให้จำเลยร่วมไปดำเนินการ การที่จำเลยร่วมรับมอบรถคันที่เช่าซื้อไว้จากจำเลยที่ 1 จึงเป็นการรับมอบในฐานตัวแทนหรือนายหน้าของจำเลยที่ 1 ในการขายรถให้แก่บุคคลภายนอก มิใช่ในฐานะตัวแทนของโจทก์แต่อย่างใด จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาให้จำเลยทั้งสองรับผิดต่อโจทก์มานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน โจทก์ไม่แก้ฎีกาจึงไม่กำหนดค่าทนายความให้

Share