แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 นั้น เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องเมื่อโจทก์ประสงค์จะสืบพยานเพียงใดก็เป็นสิทธิของโจทก์ ส่วนการรับฟังพยานหลักฐานเป็นดุลพินิจของศาล เมื่อโจทก์ติดใจสืบพยานเพียงเท่านั้นและศาลเห็นว่าพยานโจทก์ที่สืบมาเป็นที่พอใจศาลและฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง กรณีหาจำเป็นต้องสืบพยานเพิ่มเติมตามที่จำเลยฎีกาไม่
ความผิดฐานพรากเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม จำเลยมีเจตนากระทำความผิดต่อบิดาผู้เสียหาย เป็นความผิดกรรมหนึ่ง ส่วนความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปีตามมาตรา 277 วรรคสองและความผิดฐานพาเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามมาตรา 283 ทวิ วรรคสอง จำเลยมีเจตนาเดียวกันคือพาผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2542 เวลากลางวัน จำเลยโดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กหญิง ว. อายุสิบปี ผู้เสียหาย ไปเสียจากนายรังสิต ไชยา ซึ่งเป็นบิดา เพื่อการอนาจาร และจำเลยพาผู้เสียหายไปเพื่ออนาจาร โดยผู้เสียหายยินยอม กับกระทำชำเราผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภริยาจำเลยจนสำเร็จความใคร่จำนวน 1 ครั้งโดยผู้เสียหายยินยอม ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 277 วรรคสอง, 283 ทวิ, 317
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสอง, 283 ทวิ วรรคสอง, 317 วรรคสาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารจำคุก 12 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปีจำคุก 12 ปี ฐานพาเด็กอายุไม่เกินสิบปีห้าปีไปเพื่อการอนาจารจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 26 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 13 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานพรากเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม และฐานพาเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 283 ทวิ วรรคสอง… ที่จำเลยฎีกาขอให้สืบพยานหลักฐานโจทก์เพิ่มเติมนั้น เห็นว่า กรณีสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176นั้น เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง เมื่อโจทก์ประสงค์จะสืบพยานเพียงใดก็เป็นสิทธิของโจทก์ส่วนการรับฟังพยานหลักฐานเป็นดุลพินิจของศาล ดังนั้น เมื่อโจทก์ติดใจสืบพยานเพียงเท่านั้นและศาลเห็นว่าพยานโจทก์ที่สืบมาเป็นที่พอใจศาลและฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานกระทำชำเราตามฟ้องกรณีหาจำต้องสืบพยานเพิ่มเติมตามที่จำเลยฎีกาไม่ และที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่า ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปีและฐานพรากเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสองและ 317 วรรคสาม ตามลำดับนั้น เห็นว่า โทษที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดมานั้นยังสูงเกินไป ไม่เหมาะสม สมควรกำหนดเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดี ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น
อนึ่ง ความผิดฐานพรากเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดาโดยปราศจากเหตุอันสมควรเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม จำเลยมีเจตนากระทำต่อบิดาผู้เสียหาย เป็นความผิดกรรมหนึ่ง ส่วนความผิดฐานกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปีตามมาตรา 277 วรรคสองและความผิดฐานพาเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามมาตรา 283 ทวิ วรรคสอง จำเลยมีเจตนาเดียวกันคือพาผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเรา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทต้องลงโทษตามมาตรา 277 วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยเป็นความผิดต่างกรรมกัน จึงเป็นการไม่ชอบ แม้จำเลยจะมิได้ยกปัญหาดังกล่าวขึ้นว่ากล่าวในศาลอุทธรณ์และมิได้ฎีกาปัญหานี้ขึ้นมา แต่กรณีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 195 ประกอบด้วยมาตรา 225”
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสอง และมาตรา 283 ทวิ วรรคสอง เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 277 วรรคสอง ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุก 10 ปีและความผิดตามมาตรา 317 วรรคสาม จำคุก 6 ปี รวมจำคุก 16 ปีลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก8 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6