คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลา เพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนซึ่งจำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบผู้ตายกับผู้เสียหายต่างแต่งกายชุดวิทยาลัยเทคนิคยะลา และยืนอยู่ใกล้กัน จึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน โดยไม่ปรากฏว่าพวกจำเลยที่ยิงมีเจตนายิงเฉพาะผู้ตาย แต่เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในภายหลังเป็นพิเศษแล้วก็ต้องฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่า จำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท มิใช่สองกรรมสองกระทง

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 20 ปี ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 12 ปี รวมจำคุก 32 ปี คำรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมพอมีประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก21 ปี 4 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันมาใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคยะลา เพราะเหตุเคยมีเรื่องวิวาททำร้ายกับนักเรียนโรงเรียนพัฒนาวิทยา ซึ่งจำเลยกับพวกเรียนอยู่ เมื่อพบนายสุนทรกับผู้เสียหายต่างแต่งกายชุดวิทยาลัยเทคนิคยะลาและยืนอยู่ใกล้กัน จึงยิงคนทั้งสองในเวลาต่อเนื่องกัน เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่แสดงว่า นายมะรอบีพวกจำเลยมีเจตนายิงเฉพาะนายสุนทร แต่เพิ่มเจตนายิงผู้เสียหายอีกคนในภายหลังเป็นพิเศษแล้วก็ต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าจำเลยกับพวกร่วมกระทำผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ไม่ใช่สองกรรมสองกระทงดังที่ศาลล่างวินิจฉัย ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุกเฉพาะความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดเพียงบทเดียวได้ แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยหลายกระทงและจำเลยมิได้ฎีกาในปัญหาข้อนี้ก็ตาม”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และ 288, 80 ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก20 ปี คำรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมพอมีประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลย 13 ปี 4 เดือน

Share