คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การทำทำนบเพื่อให้น้ำเข้านายอันมีเนื้อที่กว้าง 200 ไร่ ต้องขออนุญาตเป็นหนังสือและดำเนินการไปตามที่กฎหมายบังคับไว้ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุแม้จำเลยมิได้ยกเป็นข้อต่อสู้ศาลเก็บฟ้องปล่อยตัวจำเลยได้

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้เสียหายกับพวกขออนุญาตต่อนายอำเภอทำนบปิดคลองนาตาขวัญ เพื่อทดน้ำเข้าไปใช้ในการทำนาของราษฎร เนื้อนาที่ใช้น้ำร่วมกันมีประมาณ ๒๐๐ ไร่เศษ นายอำเภอได้อนุญาตให้ทำได้แต่การขออนุญาตและการอนุญาตได้เป็นไปโดยวาจา เมื่อผู้เสียหายกับพวกทำทำนบปิดคลองนั้นเสร็จแล้ว ต่อมาปรากฏว่าฝนตกใหญ่น้ำไหลท่วนต้นข้าวจำเลย ๆ จึงใช้จอบขุดทำนบระบายน้ำในคลองเพื่อให้น้ำในนาของจำเลยลด
ศาลชั้นต้นเห็นว่าผู้เสียหายมิได้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร พ.ศ.๒๔๘๒ มาตรา ๗ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ฟังว่าทำนบรายนี้ทำขึ้นโดยชอบแล้ว จำเลยก็ไม่มีอำนาจทำลายโดยพละการ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๔
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าการขออนุญาตทำทำนบของผู้เสียหายและการขออนุญาตของนายอำเภอมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่พระราชบัญญัติการชลประทานราษฎรบังคับไว้กล่าวคือไม่เสนอแผนที่และรายการขออนุญาตตามระเบียบตามมาตรา ๘ ไม่ปิดประกาศโฆษณาตามมาตรา ๗ ซึ่งจำเลยไม่มีโอกาศไปร้องคัดค้านหรือรู้ว่าเป็นทำนบที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน การกระทำของผู้เสียหายจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นการที่จำเลยขุดทำนบอันไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อระบายน้ำให้ข้าวพ้นจากจมน้ำ จึงเป็นการป้องกันทรัพย์ของตนพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่ผิด แม้จำเลยมิได้ยกข้อป้องกันทรัพย์ขึ้นต่อสู้ในการคำให้การ ศาลยก็ย่อมพิพากษาปล่อยจำเลยได้ จึงพิพากษาปล่อยจำเลยได้ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share