คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มีสิทธิขอให้ศาลบังคับคดียึดเงินที่จำเลยวางเป็นประกันไว้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรกรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีสิทธิชนิดหนึ่งอันเข้าสิทธิอื่นๆ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 287 นั้นโจทก์จะยึดอันเป็นการบังคับเหนือเงินนี้ทีเดียวไม่ได้ ได้ก็แต่เพียงจะอายัดไว้เท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 36/2503)

ย่อยาว

โจทก์ชนะคดีจำเลยและขอให้ศาลบังคับคดีโดยสั่งยึดเงิน 3,000 บาท ซึ่งจำเลยวางประกันไว้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งเงิน 3,000 บาท ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้วทำคำร้องต่อศาลขอให้สั่งถอนการยึด เพราะเป็นเงินที่ผู้ร้องได้ยึดไว้ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2499 จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง

ต่อมาโจทก์รับตามที่ผู้ร้องแถลงว่า การเลือกตั้งได้กระทำเสร็จแล้ว ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้รับเลือกตั้งและได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 โดยเหตุนี้ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องว่า เงิน 3,000 บาท นี้ต้องตกเป็นของรัฐ ขอให้ถอนการยึดและคืนเงินนี้แก่ผู้ร้อง

โจทก์แถลงว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้ถอนการยึด ผู้ร้องควรให้จำเลยวางเงินประกันเสียใหม่ให้ถูกต้อง

ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2499 มาตรา 25 เงิน 3,000 บาท นี้เป็นเงินประกันจนกว่าจะเสร็จการเลือกตั้งกรรมสิทธิ์ยังเป็นของจำเลย โจทก์จึงขอยึดถอนการเลือกตั้งเสร็จลงได้ เมื่อยึดแล้วเงินนี้ก็ขาดจากการเป็นประกันต่อไป แม้จำเลยจะได้คะแนนเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20 ก็ไม่ทำให้เงินนั้นกลับตกเป็นของรัฐจึงให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้ร้องมีอำนาจยึดเงินประกันไว้ตามกฎหมายโจทก์จะยึดเงินรายนี้ในระหว่างที่ผู้ร้องมีสิทธิบังคับเหนือเงินรายนี้อยู่ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งฯ นั้นไม่ได้ เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง เงินรายนี้ก็ตกเป็นของรัฐไปตามกฎหมาย นั้นพิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ถอนการยึด คืนเงิน 3,000 บาท ให้ผู้ร้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ขอยึดเงินรายนี้ในระหว่างที่การเลือกตั้งยังไม่เสร็จ เป็นการขัดต่อสิทธิของผู้ร้องที่มีอยู่เหนือเงินนั้นในอันที่จะยึดเงินรายนี้ไว้ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2499 มาตรา 25 ถึงแม้ในระหว่างนั้นเงินรายนี้ยังเป็นเพียงเงินประกันการสมัครรับเลือกตั้งโจทก์ก็ยังบังคับโดยให้ยึดเงินรายนี้มาไม่ได้ กรณีต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 โดยผู้ร้องมีสิทธิชนิดหนึ่งอันเข้าสิทธิอื่น ๆ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 287 นั้น โจทก์จะยึดอันเป็นการบังคับเหนือเงินนี้ทีเดียวไม่ได้ ได้ก็แต่เพียงจะอายัดไว้ในกรณีที่ผู้ร้องมีหนี้ที่จะต้องคืนเงินรายนี้แก่จำเลยเท่านั้น แต่ก็ปรากฏว่า เมื่อเสร็จการเลือกตั้งแล้ว จำเลยได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 ของผู้ที่มาลงคะแนน เงินรายนี้ต้องตกเป็นของรัฐไปตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกันนี้อีก จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินจำนวนนี้คืนจากผู้ร้อง ศาลฎีกาได้ประชุมใหญ่มีมติว่า โจทก์ขอให้ยึดเงินรายนี้มาไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share