คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5554/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยส่งบุตรคืนมาอยู่ในความปกครองของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งขอให้บุตรเปลี่ยนไปอยู่ในความปกครองของจำเลย โดยให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรนับแต่ วันฟ้องด้วย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและให้เปลี่ยนผู้ปกครองบุตรจากโจทก์เป็นจำเลย และให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรตามฟ้องแย้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าให้ชำระตั้งแต่เมื่อใด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนและไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ดังนี้ ถือเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมให้ครบถ้วน โดยให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมโจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายมีบุตรด้วยกัน ๒ คน ต่อมาโจทก์จำเลยได้จดทะเบียนหย่ากันโดยตกลงให้โจทก์เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูบุตร แต่จำเลยได้นำเอาบุตรทั้งสองไปอยู่กับจำเลย จำเลยไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงดูบุตร ขอบังคับให้จำเลยส่งบุตรทั้งสองคืนมาอยู่ในความอุปการะของโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่จดทะเบียนหย่าและตกลงกันให้บุตรทั้งสองอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของโจทก์นั้นก็เพื่อความสะดวกในการเบิกค่าเลี้ยงดู บุตรจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยที่โจทก์ทำงานอยู่เท่านั้น แต่บุตรทั้งสองคงอยู่กับจำเลยตลอดมา โจทก์ไม่เคยอุปการะเลี้ยงดู ขอให้พิพากษายกฟ้อง และบังคับตามฟ้องแย้งให้บุตรทั้งสองอยู่ในอุปการะเลี้ยงดูของจำเลย กับให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งสองเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าบุตรทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยนำเอาบุตรทั้งสองไปอยู่ด้วยโดยพลการ เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเดือนละ ๒,๐๐๐ บาทไม่มีข้อตกลงในสัญญาหย่า จำเลยพาบุตรไปเองจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้เปลี่ยนผู้ปกครองบุตรจากโจทก์เป็นจำเลย และให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนวินิจฉัยว่า มีปัญหาพิจารณาตามฎีกาของโจทก์ว่า บุตรผู้เยาว์ทั้งสองควรอยู่ในอำนาจปกครองของโจทก์หรือของจำเลย และโจทก์จะต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองหรือไม่เพียงใดนั้น ข้อเท็จจริงได้ความว่าหลังจากโจทก์จำเลยจดทะเบียนหย่ากันแล้วประมาณ ๑๐ เดือน โจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกับนางนฤมลโดยรู้จักกันก่อนจดทะเบียนสมรสประมาณ ๑ -๒ เดือน นางนฤมลมีบุตรชายติดมาด้วย ๑ คน อายุ ๙ ปี และโจทก์มีบุตรกับนางนฤมลอีก ๑ คนเป็นหญิงอายุประมาณ ๑ เดือนโจทก์มีรายได้เดือนละประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจำเลยพาไปอยู่กับบิดามารดาจำเลยที่บ้านเลขที่ ๓๓๕๐ ถนนสุขุมวิท ซอยหน้าวัดบางนาใน แขวงบางนา เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่บุตรผู้เยาว์ทั้งสองเรียนหนังสือ และบุตรผู้เยาว์ทั้งสองเบิกความเป็นพยานจำเลยว่าประสงค์จะอยู่กับจำเลย ประกอบกับพนักงานคุมประพฤติผู้สืบเสาะข้อเท็จจริงและผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางได้ให้ความเห็น ไว้ในรายงานแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เยาว์ของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางว่าเพื่อความผาสุกและประโยชน์ของผู้เยาว์ทั้งสองสมควรให้จำเลยเป็นผู้มีสิทธิอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์ ดังนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนเห็นว่าโจทก์มีภริยาใหม่มีบุตร ๑ คน และมีบุตรติดภริยาใหม่อีก ๑ คนเป็นการเพิ่มภาระเลี้ยงดูให้แก่โจทก์มากขึ้นอยู่แล้ว ส่วนจำเลยแม้จะไปอาศัยอยู่กับบิดามารดาจำเลยและมีรายได้เพียงเดือนละ ๔,๐๐๐ บาท แต่ไม่ปรากฏว่ามีสามีใหม่แต่อย่างใด หากอำนาจปกครองและอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองตกอยู่กับจำเลยแล้วก็น่าจะทำให้บุตรผู้เยาว์ทั้งสองได้รับ ประโยชน์และมีความผาสุกยิ่งกว่าอยู่ในอำนาจปกครองของโจทก์ จึงสมควรให้บุตรผู้เยาว์ทั้งสองอยู่ในอำนาจปกครองของจำเลย ส่วนค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองนั้นเห็นว่า โจทก์มีรายได้มากกว่าจำเลย สมควรให้โจทก์รับผิดชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นเงินเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท จนำว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะที่ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนพิพากษาให้จำเลยเป็นผู้มีอำนาจ ปกครองบุตรผู้เยาว์ทั้งสองและให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท จนกว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองจะบรรลุนิติภาวะนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น แต่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสอตามฟ้องแย้งโดยไม่ระบุว่าตั้งแต่เมื่อใด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน และไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย สมควรแก้ไขเพิ่มเติมเสียให้ครบถ้วนโดยให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ทั้งสองนับแต่วันที่ศาลชั้นต้น พิพากษา
พิพากษายืนเว้นแต่ให้โจทก์ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่บุตรผู้เยาว์ทั้งสอง ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share