แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยทั้งสิบเจ็ดคนในคดีนี้เป็นเจ้าพนักงานตำรวจทั้งหมดและในขณะนี้ยังเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ และคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ความผิด ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และผู้ที่ถูกฆ่า เป็นเจ้าพนักงานปกครอง และสมาชิกอาสารักษาดินแดน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยทั้งสิบเจ็ดคนมีประชาชนในท้องถิ่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุรู้เห็นเหตุการณ์นี้ดีโดยตลอดนับจำนวนร้อยคน ทำให้ประชาชนในจังหวัดเพชรบุรีต่างมีความรู้สึกว่าชีวิตของตนเองนั้นไม่มีความปลอดภัย และพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ในคดีนี้ ได้ถูกจำเลยทั้งสิบเจ็ดคนกับพวกได้ทำการข่มขู่จนได้รับความเกรงกลัวว่าจะได้รับอันตราย แก่ตนเองและญาติพี่น้อง พยานบางปากหลังจากให้ปากคำ กับพนักงานสอบสวนแล้วก็ได้หลบหนีออกจากจังหวัดเพชรบุรี และพยานบางปาก หลังจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว ก็ได้ถูกทำร้ายร่างกาย หากให้มีการไต่สวนมูลฟ้อง หรือทำการ พิจารณาคดีนี้ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีแล้ว เชื่อได้แน่ว่า จะมีการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของศาล เพราะจำเลย ทั้งสิบเจ็ดคนเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี จะทำการข่มขู่พยานหรืออาจกระทำการอื่นใดเพื่อมิให้พยานมาศาล ซึ่งเป็นการยากลำบากต่อพยานที่จะมาศาล อาจจะเกิดเหตุร้าย กับพยานหรือเกิดความไม่สงบได้ โปรดอนุญาตให้โอนคดีนี้ ไปทำการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาที่ศาลอาญา กรุงเทพมหานคร ด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ถึงที่ 17 แถลงคัดค้าน (อันดับ 12)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง 17 คน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289,295,157,83 และ 91
คดีอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้อง
โจทก์ทั้งสี่ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 5)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีจำนวนจำเลยผู้ถูกฟ้องว่าร่วมกันกระทำผิดถึง 17 คน และทุกคนล้วนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีอำนาจหน้าที่อยู่ใน ท้องที่เกิดเหตุทั้งสิ้น ซึ่งพิจารณาตามเหตุผลแล้ว จำเลย ย่อมมีพรรคพวกมากและมีอิทธิพลสูงในความรู้สึกของประชาชน และผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่เกิดเหตุ หากมีการดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดเพชรบุรีต่อไป อาจมีเหตุมา ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา ของศาลได้ จึงอนุญาตให้โอนคดีนี้ไปพิจารณายังศาลอาญา ตามคำขอของโจทก์ทั้งสี่