แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1ได้ยักย้ายรถยนต์คันพิพาทจดทะเบียนโอนให้แก่จำเลยที่2โดยไม่สุจริตจำเลยที่1ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะบังคับให้ชำระหนี้ได้การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์เสียเปรียบขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนโอนรถยนต์บรรทุกเป็นโมฆะคำฟ้องของโจทก์พอจะเข้าใจได้ว่าโจทก์ร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่1กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้โจทก์เสียเปรียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา237วรรคหนึ่งที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรถยนต์คันพิพาทจึงไม่เป็นการเกินคำขอ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2535 โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 80-2742 กำแพงเพชรของจำเลยที่ 1 แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2535 จำเลยที่ 1ได้ยักย้ายรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวจดทะเบียนโอนให้แก่จำเลยที่ 2โดยเจตนาไม่สุจริตจำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะบังคับชำระหนี้ได้อีก ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนโอนรถยนต์บรรทุกลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2535 เป็นโมฆะไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ได้กรรมสิทธิ์รถยนต์บรรทุกโดยซื้อจากจำเลยที่ 1 ตั้งแต่ปี 2534 ในราคา 600,000 บาทแต่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงหลักฐานทางทะเบียน เพิ่งจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2535 ตั้งแต่ซื้อรถยนต์บรรทุกคนดังกล่าว จำเลยที่ 2 ได้นำมาจอดที่บ้านของจำเลยที่ 2 และใช้งานรับจ้างบรรทุกทั่วไป ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80-2742 กำแพงเพชร จากจำเลยที่ 2 กลับเป็นของจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 2 ไม่ไปจดทะเบียนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 2
จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรถยนต์คันพิพาทเป็นการเกินคำขอหรือไม่ โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้ยักย้ายรถยนต์คันพิพาทจดทะเบียนโอนให้แก่จำเลยที่ 2 โดยไม่สุจริต จำเลยที่ 1 ไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะบังคับให้ชำระหนี้ได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์เสียเปรียบขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนโอนรถยนต์บรรทุกเป็นโมฆะคำฟ้องโจทก์พอจะเข้าใจได้ว่า โจทก์ร้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่ 1 กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางทำให้โจทก์เสียเปรียบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 วรรคหนึ่งที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้เพิกถอนการจดทะเบียนรถยนต์คันพิพาทจึงไม่เป็นการเกินคำขอฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน