แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีนี้ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 3 ปี การที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษปรับโดยมิได้กำหนดวิธีบังคับค่าปรับนั้นจึงไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ชัดแจ้งได้ โดยแก้เป็นว่าหากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29, 30
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 61, 73
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตรา 61, 73 จำเลยให้การรับสารภาพ ไม่ลดโทษให้ คงจำคุก 3 เดือน และปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษโดยรองอัยการสูงสุดรักษาราชการแทนอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษโดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษนั้น เห็นว่า ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำคุกและปรับจำเลยในอัตราสูงสุดแล้ว แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็ไม่ลดโทษให้ ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำผิดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายในลักษณะนี้มาก่อนประกอบกับข้อเท็จจริงแห่งคดีนี้ไม่ปรากฏว่าที่จำเลยกระทำผิดนั้น เป็นการทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหรือชำรุดอันอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนดังที่โจทก์ฎีกา ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยมานั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว
อนึ่งที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษปรับโดยมิได้กำหนดวิธีบังคับค่าปรับนั้น ไม่ชัดแจ้ง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ชัดแจ้ง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้กำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยโดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 1 ปี หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.