คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถูกจับฐานทำร้ายร่างกาย ในขณะเดียวกันจำเลยได้กล่าวหาว่า ผู้เสียหายเข้าไปลักมะม่วง เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานสอบสวนเป็นอีกคดีหนึ่ง ย่อมเป็นผิดตามมาตรา 137

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันใช้หอกมีดไม้ทำร้ายร่างกายนายเล้งมีบาดเจ็บสาหัส แล้วจำเลยที่ ๑ บังอาจเอาความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ว่านายเล้ง นายหลายเป็นคนร้ายลักมะม่วงในสวนของจำเลยที่ ๑ จึงขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา ๒๕๖,๑๑๘ จำเลยที่ ๒ ตาม มาตรา ๒๕๖ ส่วนจำเลยที่ ๓ – ๔ ไม่มีผิดให้ปล่อยตัวไป
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ บอกแก่เจ้าพนักงานตำรวจว่านายเล้ง นายหลาบเป็นผู้ร้ายลักมะม่วงนั้น เป็นการกล่าวแก้ข้อหาที่เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งให้จำเลยทราบว่า จำเลยต้องหาว่าทำร้ายนายเล้งจึงหามีลักษณะเป็นการเอาความเท็จมาแจ้งต่อเจ้าพนักงานไม่ จึงพิพากษาแก้ให้ยกข้อหาและการลงโทษจำเลยที่ ๑ ในฐานแจ้งความเท็จเสีย นอกนั้นคงพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อกล่าวหาของจำเลยที่ ๑ ไม่ใช่กล่าวในคำให้การต่อสู้คดีของตน และเมื่อได้ความว่าจำเลยที่ ๑ ได้แจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจว่านายเล้งนายหลาบเป็นคนร้ายลักมะม่วงของตน จนได้มีการสอบสวนขึ้นอีกคดีหนึ่งเช่นนี้คำกล่าวหานั้นก็เป็นเท็จ จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานแจ้งความเท็จด้วยพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จตามศาลขั้นต้น.

Share