คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4712/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 วรรคสองที่ระวางโทษหนักขึ้นกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 50 วรรคหนึ่ง มุ่งหมายเฉพาะผู้ซึ่งกระทำผิดตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีสัญชาติไทย เมื่อจำเลยผู้ซึ่งกระทำความผิดเป็นผู้มีสัญชาติไทย จึงไม่ต้องด้วยมาตรา 50 วรรคสอง คงเป็นความผิดตามมาตรา 50วรรคหนึ่ง เท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามมาตรา 50 วรรคสอง นั้นไม่ถูกต้องศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขบทความผิดให้ถูกต้องแต่ศาลล่างวางโทษมาเหมาะสมแล้วศาลฎีกาจึงไม่แก้โทษให้เบาลง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2539 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสี่กับพวกอีกสองคน ซึ่งมีคนหนึ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทย ได้ร่วมกันแจ้งให้นางลำดวน เวชรัตนะวัฒน์เจ้าพนักงานปกครอง 5 และนายอำนวย ภูหนองโอง เจ้าหน้าที่ปกครอง 4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ผู้กระทำการตามหน้าที่ มีหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนของที่ว่าการกิ่งอำเภอกุดรัง ในการรับแจ้งย้ายเข้าย้ายออก เพิ่มเติมชื่อบุคคลในทะเบียนบ้าน ในเขตกิ่งอำเภอกุดรัง จดข้อความอันเป็นเท็จลงในบันทึกเรื่องขอเพิ่มเติมชื่อเข้าในทะเบียนบ้าน ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2539 อันเป็นเอกสารราชการของสำนักงานทะเบียนกิ่งอำเภอกุดรัง ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานในการขอเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านว่านายสมคิด สีฤทธิ์เป็นบุตรของจำเลยที่ 1 และที่ 2เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2516 และเป็นพี่น้องฝาแฝดกับจำเลยที่ 4 ไม่ได้เป็นบุคคลต่างด้าวมีชื่อตกหล่นจากทะเบียนบ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 6 ตำบลนาโพธิ์ กิ่งอำเภอกุดรังจังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอเพิ่มเติมชื่อเข้าในทะเบียนบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งความจริงแล้วพวกของจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวไม่ได้ชื่อนายสมคิด สีฤทธิ์ ไม่ได้เป็นบุตรของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และมิได้เป็นพี่น้องฝาแฝดกับจำเลยที่ 4 แต่อย่างใด และเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่นางลำดวน เวชรัตนะวัฒน์ นายอำนวยภูหนองโอง และทางราชการที่ว่าการกิ่งอำเภอกุดรังหรือประชาชน และเป็นการกระทำเพื่อให้พวกของจำเลยทั้งสี่ ซึ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทย ที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 6 ตำบลนาโพธิ์ กิ่งอำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม โดยมิชอบ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 137, 267 พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50วรรคสอง และให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 3 ต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขดำที่ 2334/2540 ของศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสั่งให้แยกฟ้องจำเลยที่ 3 ภายใน 10 วัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 137, 267 พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎรพ.ศ. 2534 มาตรา 50 วรรคสอง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกคนละ 1 ปี จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 6 เดือน

จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ได้ร่วมกับพวกอีกสองคนแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายผู้กระทำการตามหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อให้พวกของจำเลยซึ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทย มีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านเลขที่ 82 หมู่ 6 ตำบลนาโพธิ์ กิ่งอำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม โดยมิชอบ เป็นการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศชาติพฤติการณ์แห่งคดีการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จึงร้ายแรง ข้ออ้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษให้จำเลยที่ 1 ที่ 2และที่ 4 ได้

อนึ่ง พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 วรรคสอง ระวางโทษหนักขึ้นกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรา 50 วรรคหนึ่งนั้นมุ่งหมายเฉพาะ ผู้ซึ่งกระทำผิดตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีสัญชาติไทย เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 เป็นผู้ซึ่งมีสัญชาติไทย จึงไม่ต้องด้วยมาตรา 50 วรรคสอง คงเป็นความผิดตามมาตรา 50วรรคหนึ่ง เท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ตามมาตรา 50วรรคสอง นั้นไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ยังเห็นว่าอัตราโทษที่ศาลล่างทั้งสองวางโทษมานั้นเหมาะสมแล้ว

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีความผิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 วรรคหนึ่ง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share