คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินซึ่งมีชื่อภรรยาจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในฐานที่เป็นทรัพย์สินของจำเลย ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยและภรรยาในคดีอื่นและเป็นผู้รับจำนองที่ดินแปลงที่ถูกยึด ได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในเงินที่ขายทอดตลาดก่อนเจ้าหนี้อื่นในฐานเจ้าหนี้บุริมสิทธิ ส่วนเงินที่เหลือผู้ร้องหาได้ใช้สิทธิในฐานะเจ้าหนี้ของจำเลยยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ไม่ดังนั้น เมื่อไม่มีเจ้าหนี้รายอื่นมายื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็ชอบที่ศาลจะต้องจ่ายเงินสุทธิที่หักจากหนี้บุริมสิทธิ์ให้โจทก์ไปตามสิทธิที่โจทก์มีส่วนได้รับ ผู้ร้องจะมายื่นคำแถลงคัดค้านขอให้งดการจ่ายเงินที่เหลือดังกล่าวทั้งหมดโดยอ้างว่าขอยึดไว้ในคดีอื่นแล้วหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระเงินจำนวน 185,248 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยผิดนัดโจทก์บังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 34 ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุงพร้อมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ซึ่งมีชื่อนางสาคร ธัญญพานิช ภรรยาจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ขายทอดตลาดได้เงิน 450,000 บาทผู้ร้องยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิไปจำนวน 169,647.67 บาทคงเหลือเงินสุทธิจำนวน 258,802.33 บาท โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินส่วนที่เหลือดังกล่าว ศาลชั้นต้นอนุญาต ผู้ร้องยื่นคำแถลงคัดค้านว่าทรัพย์ที่ขายเป็นกรรมสิทธิ์ของนางสาคร มิใช่ของจำเลยเงินส่วนที่เหลือจะต้องตกเป็นของกองมรดกของนางสาคร ซึ่งผู้ร้องได้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดเงินจำนวนนี้ไว้ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 757/2529 แล้ว จึงขอให้ศาลชั้นต้นระงับการจ่ายเงินแก่โจทก์ศาลชั้นต้นสั่งนัดพร้อม
ในวันนัดพร้อม ศาลชั้นต้นได้ตรวจคำร้องคำแถลงต่าง ๆ แล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้จ่ายเงินแก่โจทก์ตามคำแถลงเสียโดยเปลี่ยนเป็นอนุญาตให้โจทก์บังคับเอาเฉพาะจากเงินครึ่งหนึ่งของจำนวนที่เหลือจากการชำระหนี้บุริมสิทธิแก่ผู้ร้องแล้วเท่านั้น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นจ่ายเงินคงเหลือสุทธิที่หักจากหนี้บุริมสิทธิแล้วแก่โจทก์ไป ตามส่วนที่โจทก์พึงมีสิทธิได้รับเต็มจำนวน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์นำยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 34 พร้อมสิ่งปลูกสร้างมาขายทอดตลาดก็ในฐานที่เป็นทรัพย์สินของจำเลยโดยกองมรดกของนางสาครผู้ตายมิได้ยื่นคำคัดค้าน หรือขอใช้สิทธิอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งส่วนผู้ร้องก็เพียงแต่ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ในเงินที่ขายทอดตลาดก่อนเจ้าหนี้อื่นในฐานเจ้าหนี้บุริมสิทธิเท่านั้น ซึ่งศาลชั้นต้นอนุญาตแล้ว สำหรับเงินส่วนที่เหลือ ผู้ร้องเจ้าหนี้จำเลยที่ 1ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 757/2529 ของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยคดีนี้ มิได้ยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ดังนั้น เมื่อไม่มีเจ้าหนี้รายอื่นมายื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์ภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็ชอบที่จะต้องจ่ายเงินสุทธิที่หักจากหนี้บุริมสิทธิแล้วให้แก่โจทก์ไปตามที่โจทก์พึงมีสิทธิได้รับเต็มจำนวน ผู้ร้องจะมายื่นคำแถลงคัดค้านขอให้งดการจ่ายเงินที่เหลือทั้งหมดให้แก่โจทก์โดยอ้างเหตุว่าขอยึดไว้ในคดีอื่นหาได้ไม่
พิพากษายืน

Share