คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องคดีอาญาอ้างบทลงโทษเกินกว่าสิบปี และโทษเบารวมกันมา จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพะยานประกอบในข้อหาอุกฉกรรจ์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด ศาลก็ลงโทษในข้อหาฐานเมาได้ แม้คำพะยานโจทก์ในข้อหานี้จะไม่มีน้ำหนักก็ตาม เพราะจำเลยให้การรับสารภาพแล้ว ไม่มีกฎหมายบังคับให้สืบพะยานประกอบ เช่น ข้อหาอุกฉกรรจ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกับนายดอกไม้สักกระบือของเจ้าทรัพย์ไป เจ้าทรัพย์รู้ด้วยออกติดตาม จำเลยกลับยิงต่อสู้เจ้าทรัพย์ ๆ ยิงตอบถูกนายดอกไม้ตาย ส่วนจำเลยหลบหนีไป ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๔, ๒๙๙, ๒๔๙, ๒๕๐, ๖๑ จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อหาฐานฆ่าคนตายและชิงทรัพย์นั้น พะยานโจทก์ที่นำสืบประกอบคดีฟังไม่ได้ว่า จำเลยเป็นพวกของนายดอกไม้ที่ยิงต่อสู้เจ้าทรัพย์ จึงลงโทษจำเลยสำหรับความผิดสองฐานนี้ไม่ได้ แต่ความผิดฐานลักทรัพย์นั้น มีอัตราโทษจำคุกไม่ถึง ๑๐ ปี ศาลย่อมฟังคำให้การของจำเลยในการวินิจฉัยชี้ขาดลงโทษจำเลยได้ แม้พะยานโจทก์จะฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดก็ดี เมื่อจำเลยให้การรับแล้วว่าจำเลยเป็นผู้พากระบือไปกับนายดอกไม้ จำเลยก็มีผิด จึงพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อโจทก์สืบไม่สมก็ต้องพิพากษายกฟ้อง จะถือเอาคำให้การรับของจำเลยมาสนับสนุนพะยานโจทก์ฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา, คงมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาฉะเพาะว่า ศาลจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ศาลฟังคำจำเลยมาประกอบคดีโจทกซึ่งบกพร่องเพื่อลงโทษจำเลยนั้นเป็นการไม่สมควรก็จริง แต่ในคดีอาญา ข้อเท็จจริงบางข้อซึ่งโจทก์จำเลยรับกันแล้ว อีกฝ่ายหนึ่งหาจำต้องสืบพะยานไม่ ตามป.ม.วิ.อาญามาตรา ๑๗๒ วรรค ๒ และ มาตรา ๒๓๕ ก็แสดงให้เห็นว่า ในการพิจารณานั้น ศาลจะต้องฟ้องคำของจำเลยด้วย มิใช่แต่เพียงจะดูว่า จำเลยรับหรือปฏิเสธเท่านั้น และเมื่อถึงตอนพิจารณา ศาลก็ย่อมต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ปรากฎในคดีเป็นสำคัญ ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดโดยไม่มีการยกเว้นโทษตามกฎหมายแล้ว ก็ต้องลงโทษ ไม่มีกฎหมายในที่ใดบังคับว่าข้อเท็จจริงที่ศาลจะนำมาประกอบความเห็นนั้นจะต้องนำมาจากฉะเพาะพะยานโจทก์อย่างเดียว ตาม มาตรา ๓๒๓, ๒๓๕ ก็หาได้บังคับให้ศาลฟังฉะเพาะคำพะยานโจทก์เท่านั้นไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลถามคำให้การจำเลยนั้น มิใช่เพื่อจะเพิ่มเติมคดีโจทก์ซึ่งบกพร่องอย่างไรเลย แต่เป็นการถามคำให้การตามมาตรา ๑๗๒ เมื่อจำเลยให้การรับว่า จำเลยเป็นคนที่เอากระบือไปจากบ้านเจ้าทรัพย์และไม่มีเหตุผลให้ศาลฟังเป็นอย่างอื่น คำรับของจำเลยนี้เป็นเท็จแล้วก็ต้องฟังว่า จำเลยเป็นผู้ไปลักทรัพย์รายนี้กับนายดอกไม้และเมื่อจำเลยไม่สามารถสืบหักล้างข้อเท็จจริงอันนี้ได้ก็ต้องลงโทษจำเลย พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น

Share