คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยเอางานที่รับเหมาจากกรมชลประทานมาว่าจ้างให้โจทก์ทำให้อายุความฟ้องเรียกสินจ้างมีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7) นับแต่โจทก์มีสิทธิรับเงินตามเงื่อนไขในสัญญา การที่โจทก์ไปขอคิดบัญชีกับจำเลย แต่จำเลยขอผัดผ่อน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยรับสภาพหนี้อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ตามเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าจ้างที่ระบุไว้ในช่องหมายเหตุท้ายใบสั่งจ้างเอกสารหมาย จ.4 นั้น โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยจ่ายเงินให้ครบถ้วนภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2516 ซึ่งเป็นวันครบ 30 วัน นับแต่วันส่งงานเป็นต้นไป โจทก์เพิ่งมาฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2518 เป็นเวลากว่า 2 ปี นับเริ่มแต่ขณะที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้คดีของโจทก์ตกเป็นอันขาดอายุความห้ามมิให้ฟ้องร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163 ประกอบด้วยมาตรา 165(7) ข้อที่โจทก์อ้างว่าเมื่อโจทก์ทำงานเสร็จ กรมชลประทานได้รับมอบงานเรียบร้อยแล้ว โจทก์ได้ไปขอคิดบัญชีกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ให้นายปรีชาบุตรจำเลยที่ 2 เป็นผู้คิดบัญชีกับโจทก์ อันเป็นการแสดงว่าลูกหนี้ คือจำเลยได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้น พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าตามฟ้องโจทก์กล่าวว่าโจทก์ไปขอคิดบัญชีกับจำเลยหลายครั้งหลายหน จำเลยที่ 2 ก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมา จนบัดนี้จำเลยยังไม่ยอมคิดบัญชีกับโจทก์ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ อันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามที่โจทก์ยกขึ้นอ้าง”

พิพากษายืน

Share