แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อไก่จากโจทก์หลายครั้งหลายรายการในระหว่างวันที่ 22 ถึง 31 มีนาคม 2527 จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้ให้โจทก์ 4 ฉบับ ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า จำเลยยอมรับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ อายุความจึงสะดุดหยุดลง จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้ให้โจทก์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2527 ซึ่งยังอยู่ภายในอายุความ 2 ปี นับแต่วันทำการซื้อขายสินค้าอายุความสะดุดหยุดลงในวันนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172(เดิม) เช็คพิพาท 4 ฉบับที่จำเลยชำระให้แก่โจทก์ฉบับแรกลงวันที่ 30 ตุลาคม 2527 ฉบับที่สองลงวันที่ 30 พฤศจิกายน2527 ฉบับที่สามลงวันที่ 30 ธันวาคม 2527 และฉบับที่สี่ลงวันที่30 มกราคม 2528 เมื่อเช็คแต่ละฉบับถึงกำหนดสั่งจ่ายเงิน จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 1ธันวาคม 2529 จำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกตามเช็คฉบับแรกและฉบับที่สองจึงเกินกำหนด 2 ปี ย่อมขาดอายุความ ส่วนจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกตามเช็คฉบับที่สามและฉบับที่สี่ยังไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ซื้อสินค้าไก่จากโจทก์ไปรวม 36 ครั้งรวมเป็นเงิน 452,770 บาท จำเลยได้ชำระเป็นเงินสดให้โจทก์แล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งได้ชำระเป็นเช็ค รวม 8 ฉบับ แต่เช็คทั้ง8 ฉบับถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์จำนวน 314,550 บาท โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้จำเลยชำระหนี้จำนวน 365,592.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีจากต้นเงิน 314,550 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะได้ซื้อขายกันเสร็จสิ้นเกินกว่า 2 ปีแล้ว เช็คบางฉบับจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว บางฉบับก็เอาเช็คอื่นมาแลกคืนพร้อมชำระเงินสด โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยเพราะโจทก์ไม่เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 161,550 บาท พร้อมค่าเสียหายในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2529 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22 ถึงวันที่ 31 มีนาคม2527 จำเลยได้ซื้อไก่จากโจทก์เป็นเงิน 105,200 บาท ปรากฏตามบิลขายไก่เอกสารหมาย จ.3 ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน2527 จำเลยได้ซื้อไก่ไปเป็นเงิน 53,640 บาท ปรากฏตามบิลขายไก่เอกสารหมาย จ.4 ระหว่างวันที่ 23 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2527 และวันที่ 5 มกราคม 2528 จำเลยได้ซื้อไก่ไปเป็นเงิน 192,380 บาทปรากฏตามบิลขายไก่เอกสารหมาย จ.5 ระหว่างวันที่ 14 ถึงวันที่23 มกราคม 2528 จำเลยได้ซื้อไก่ไปเป็นเงิน 101,550 บาท ปรากฏตามบิลขายไก่เอกสารหมาย จ.6 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 452,770 บาท ในการซื้อขายกันนั้น โจทก์จำเลยตกลงกันว่าในระหว่าง 3 ถึง 5 วันโจทก์จะไปเก็บเงินครั้งหนึ่ง สำหรับหนี้ตามเอกสารหมาย จ.3 จำนวน105,200 บาท เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2527 จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ด้วยเงินสด 5,200 บาท และเช็คธนาคารศรีนคร จำกัด สาขาจันทบุรีรวม 4 ฉบับ ฉบับละ 25,000 บาท ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2527 ลงวันที่30 พฤศจิกายน 2527 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2527 และลงวันที่ 30มกราคม 2528 ปรากฏตามรายการในเอกสารหมาย จ.7 แต่เช็คถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินสำหรับหนี้ตามเอกสารหมาย จ.4 จำนวน53,640 บาท จำเลยชำระเป็นเช็ค จำนวนเงิน 53,000 บาท เพราะโจทก์ลดให้ 640 บาท แต่เช็คถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยได้ออกเช็คให้ใหม่อีกแต่ก็เรียกเก็บเงินไม่ได้ ปรากฏตามหลักฐานการรับชำระเงินเอกสารหมาย จ.8 สำหรับหนี้ตามเอกสารหมาย จ.5 จำนวน 192,380 บาทโจทก์ลดให้ 780 บาท จำเลยชำระเป็นเงินสดให้แล้วจำนวน 131,600 บาทยังคงค้าง 60,000 บาท สำหรับหนี้ตามเอกสารหมาย จ.6 จำนวน101,550 บาท จำเลยยังไม่ได้ชำระรวมเป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระ314,550 บาท โจทก์มีหนังสือทวงถามตามเอกสารหมาย จ.13 แล้วจำเลยไม่ชำระมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์แต่เพียงว่าหนี้ค่าซื้อไก่ครั้งแรกจำนวน 100,000 บาท ที่จำเลยออกเช็คฉบับละ25,000 บาท รวม 4 ฉบับ ชำระหนี้โจทก์นั้นขาดอายุความหรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์เป็นพ่อค้าขายไก่ฟ้องเรียกหนี้ค่าไก่ซึ่งจำเลยซื้อไปมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1)(เดิม) การที่จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อไก่จากโจทก์หลายครั้งหลายรายการในช่วงระหว่างวันที่ 22 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2527เมื่อโจทก์ทวงหนี้ดังกล่าวแล้วจำเลยนำเช็คมาชำระหนี้ให้โจทก์4 ฉบับ รวมเป็นเงินตามเช็คจำนวน 100,000 บาท ดังนี้ถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ อายุความจึงสะดุดหยุดลง จำเลยนำเช็คมาชำระหนี้ให้โจทก์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม2527 ซึ่งยังอยู่ภายในอายุความ 2 ปี นับแต่วันทำการซื้อขายสินค้าอายุความสะดุดหยุดลงในวันนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 172(เดิม) เช็คพิพาท 4 ฉบับ ที่จำเลยชำระให้แก่โจทก์ฉบับแรกลงวันที่ 30 ตุลาคม 2527 ฉบับที่สองลงวันที่ 30 พฤศจิกายน2527 ฉบับที่สามลงวันที่ 30 ธันวาคม 2527 ฉบับที่สี่ลงวันที่ 30มกราคม 2528 เมื่อเช็คแต่ละฉบับถึงกำหนดสั่งจ่ายเงิน จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันนั้น ทั้งนี้ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่821/2514 คดีระหว่างบริษัทศรีมหาราชา จำกัด โจทก์นายเว้งเซียะหรือยง แซ่โค้ว จำเลย กรณีตามคดีนี้ โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2529 จำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกตามเช็คฉบับแรกและฉบับที่สองจึงเกินกำหนด 2 ปี ย่อมขาดอายุความส่วนจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องเรียกตามเช็คฉบับที่สามและฉบับที่สี่รวมเป็นเงิน 50,000 บาท ยังไม่เกินกำหนด 2 ปี จึงยังไม่ขาดอายุความ
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์เพิ่มอีก 50,000บาท และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ สำหรับค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนเฉพาะเท่าที่โจทก์ชนะคดี กำหนดค่าทนายความรวม3,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์