แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์กล่าวความเพียงว่า เจ้าพนักงานตำรวจจับตัวจำเลยได้พร้อมด้วยกระดาษเขียนเลขสลากกินรวบ ธนบัตร จำนวนหนึ่งเป็นของกลาง มิได้ระบุว่าเป็นธนบัตรที่ใช้ หรือได้มาจากการกระทำผิดดังนี้ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพว่า ได้เล่นการพนันสลากกินรวบจริง ก็จะริบธนบัตรของกลางไม่ได้ เพราะไม่มีข้อเท็จจริงให้ฟังว่า ธนบัตรนี้ได้เอาออกการพนันกัน
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องหาว่า จำเลยกับพวกลักลอบเล่นการพนันสลากกินรวบ จึงขอให้ลงโทษ และริบของกาลาง
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ ฯลฯ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ ขอคืนธนบัตรของกลาง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ตามฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่า ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมด้วยกระดาษที่เขียนเลขสลากกินรวบ ๔ ชิ้น ธนบัตรรวม ๔,๔๑๔๐๗๕ บาทเป็นของกลาง ไม่ได้ระบุว่าเป็นธนบัตรที่ได้มาจากการเล่นการพนันหรือในวงเล่นเลย จึงพิพากษาแก้ให้คืนธนบัตรของกลางแก่จำเลย นอกจากนี้พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้ริบธนบัตรของกลาง
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นพ้องตามศาลอุทธรณ์และเห็นว่า คำว่า ” ของกลาง ” หาได้หมายเฉพาะถึงของที่ใช้หรือได้มาจากการกระทำผิดเท่านั้น สิ่งของที่เจ้าพนักงานจับได้ในวงเล่นการพนันนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นของที่ใช้หรือได้มาจากการเล่นการพนันเสมอไปเช่น เสื่อ ตะเกียง ซึ่งเจ้าพนักงานจับได้ในวงเล่นการพนันเป็นของกลาง แม้จำเลยรับสารภาพ ศาลฎีกาก็ได้เคยสั่งไม่ริบ เพราะไม่ได้ความว่าเป็นเครื่องใช้ในการเล่นการพนัน ตามนัยฎีกาที่ ๗๒๗/๒๔๘๙ โดยเฉพาะธนบัตรตามสภาพไม่ใช่ของที่ใช้ เล่นการพนันเท่านั้น และคดีนี้ก็ไม่มีข้อเท็จจริงให้ฟังได้ว่า ธนบัตรรายนี้ได้เอาออกพนัน ฉะนั้นที่ศาลอุทธรณ์ไม่ริบ จึงชอบแล้ว พิพากษายืน