แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ทั้ง ๔ ฟ้องเรียกค่าจ้างจากจำเลยทั้ง ๓ จำเลยต่อสู้และฟ้องแย้งเรียกเงินส่วนที่ต้องจ้างผู้อื่นทำแทนจากโจทก์ที่ ๒
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ ๑-๒-๓ ได้ร่วมกันจ้างโจทก์ทำงานและค้างค่าจ้างจริงพิพากษาให้จำเลยทั้ง ๓ ชำระค่าจ้างให้โจทก์
จำเลยทั้ง ๓ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ผู้เดียวฎีกาว่า เมื่อศาลบังคับใหัจำเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นนิติบุคคลชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้ว จำเลยที่ ๑ ในฐานะเป็นผู้จัดการ ก็ไม่จำต้องรับผิดอีก
ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ ๑ เป็นทั้งเจ้าของและผู้จัดการบริษัทไพบูลย์ประทีปซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน โจทก์ฟ้องเรียกจำเลยที่ ๑ ได้ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๗๐ ซึ่งบัญญัติว่า เมื่อใดห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ เมื่อนั้นเจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นชอบที่จะเรียกให้ชำระหนี้เอาแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งคนใดก็ได้ และเมื่อโจทก์ทั้ง ๔ ได้รับจ้างจากจำเลยด้วยกันและได้ทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้ จึงพิพากษายืน