แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดีๆ ผู้ตายซึ่งเมาสุราเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้ามไป พอจำเลยลุกขึ้นได้ ผู้ตายก็หันกลับมาชวนให้น่าเชื่อว่า ผู้ตายหันมาเพื่อทำร้ายจำเลยอีก ทั้งผู้ตายก็เป็นนักเลงโต อาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยไม่รู้ว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว การที่จำเลยใช้มีดคู่ปลายแหลมแทงผู้ตายไป 1 ทีในขณะนั้นและผู้ตายตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกแทงนั้น ก็ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยป้องกันตัว ฯลฯ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 50 จึงให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 55 วางโทษจำคุก 7 ปี ลดตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 ปี 6 เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว ได้ความว่านายเส็งผู้ตายเป็นนักเลงโตบ้านส้อง คืนวันโจทก์หา มีหนังตะลุงประชันโรงที่ตลาดบ้านส้องเวลาประมาณ 23.00 น.เศษ นายเส็งเสพสุราเมาพูดว่า ใครจะใหญ่กว่าใคร และตรงเข้าถีบถูกหน้าจำเลยขณะนั่งดูหนังตะลุงอยู่ล้มลง แล้วโดดข้ามจำเลยไป จำเลยลุกขึ้นพอดีนายเส็งหันกลับมา จำเลยก็ใช้มีดคู่ปลายแหลมเล่มของกลาง แทงนายเส็งถูกตรงใต้ชายโครงขวาซี่ที่สุดแผลกว้าง 1 ซ.ม.ครึ่ง ลึกเข้าไปในช่องท้อง 7 ซ.ม. นายเส็งตายเพราะพิษบาดแผล เมื่อ 14 น.วันรุ่งขึ้น
ตามข้อเท็จจริงดังนี้ เห็นว่าจำเลยนั่งดูหนังตะลุงอยู่ดี ๆ ผู้ตายซึ่งเสพสุราเมาเข้าถีบหน้าจำเลยแล้วโดดข้าม พอจำเลยลุกขึ้นไปผู้ตายก็หันกลับมา ชวนให้น่าเชื่อว่า หันมาเพื่อจะทำร้ายจำเลยอีก ผู้ตายเป็นนักเลงโตอาจมีอาวุธติดตัวอยู่ก็ได้ แม้จำเลยจะไม่รู้ว่า ผู้ตายมีอาวุธอะไรก็เป็นเวลากระทันหันจวนตัว ฉะนั้นการที่จำเลยใช้มีดของกลางแทงผู้ตายไปในขณะนั้น จึงฟังได้ว่า เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์