คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 408/2472

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลงโทษจำเลยโดยใช้พะยานแวดล้อมกรณีเหตุพยาบาทเพียงสงสัยว่าบุตร์ผู้ตายลักโค ยังไม่พอตัดสินว่ามีความพยาบาท

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยเอาปืนลอบยิง ค.ตายขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๐-๖๐ จำเลยปฏิเสธ โจทก์มีพะยานนำสืบเปน ๓ ตอน คือ ตอนที่ ๑ มีพะยานพบ ช.จำเลยกับพวก ๓ คนเดิรแบกปืนไปทางบ้านนายแดงบิดา ช.ห่างสัก ๑ เส้น ตอนที่ ๒ มีพะยานซึ่งไปพักอยู่ที่บ้านนายแดงได้เห็น ช.กับพวกมาที่บ้านนายแดง ๆ ลุกไปพูดกับ ช.พีมพำอยู่สักครู่หนึ่ง แล้ว ช.กับพวกก็ไปพะยานถามนายแดง ๆ บอกว่าเขาจะไปทำร้ายคนที่เรือน ค. ประมาณสักหม้อเข้าสุกพะยานก็ได้ยินเสียงปืน ๑ นัด ต่อมาอีก ๓ วันพะยานพบ ค.บุตร์ผู้ตาย ก็ได้เล่าเรื่องที่พบ ช.ให้ฟัง ตอนที่ ๓ เมื่อเสียงปืนดังแล้ว มีพะยานได้เห็น ช.กับพวกวิ่งออกมาจากทางชนำนาของ ค.ดังนี้
ศาลเดิมตัดสินว่า ช.จำเลยมีผิดตามมาตรา ๒๔๙ ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วน พ.จำเลยให้ปล่อยตัวไป
ศาลอุทธรณ์ตัดสินแก้ว่า ช.มีผิดตามมาตรา ๒๕๐ ข้อ ๓ ให้ประหารชีวิต นอกนั้นยืนตามศาลเดิม
ศาลฎีกาเห็นว่า ถึงแม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พะยานเห็นในเวลาที่ ค.ถูกยิงก็ดี แต่โจทก์มีพะยานประพฤติเหตุแวดล้อมกรณีใกล้ชิด บ่งชัดว่า ช.เปนผู้ร้ายรายนี้ ส่วนข้อสาเหตุนั้นได้ความแต่เพียงว่า นายแดงบิดาจำเลยสงสัยว่านายนวลบุตร์ผู้ตายเปนผู้ร้ายลักโคของตน และผู้ตายเคยไปขอบุตรีสาวนายแดงให้เปนภรรยานายนวล ช.จำเลยเปนผู้ขัดขวางไว้เท่านั้น จะฟังว่าจำเลยฆ่า ค.ด้วยความพยาบาทมาดหมายยังไม่ถนัด จึ่งตัดสินแก้ศาลอุทธรณ์ให้วางบทลงโทษจำเลยตามมาตรา ๒๔๙ ส่วนโทษประหารชีวิตให้คงเปนไปตามศาลอุทธรณ์

Share