คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4055/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ที่ราชพัสดุใช้เป็นสนามบินเพื่อประโยชน์ในราชการของกองทัพอากาศอยู่ในความปกครองดูแลรักษาของกรมธนารักษ์ อายุความฟ้องผู้ทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ราชพัสดุรายนี้ จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่อธิบดีกรมธนารักษ์ได้รู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน มิใช่นับตั้งแต่วันที่เจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ อธิบดีกรมธนารักษ์ทราบจากผู้บัญชาการทหารอากาศที่แจ้งให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2527 โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 19 ธันวาคม 2528ยังไม่พ้นหนึ่งปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าระหว่างวันที่ 9-29 มิถุนายน 2526 ขณะที่จำเลยที่ 1 เป็นนายท่าอากาศยานสกลนคร ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ทำละเมิดต่อโจทก์ โดยจำเลยที่ 1 ยอมรับเงินจำนวน 5,000 บาท จากจำเลยที่ 2แล้วยอมให้จำเลยที่ 2 ขุดเอาดินลูกรังในที่ดินท่าอากาศยานไป ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 1,208,970 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 101,808 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่9 มิถุนายน 2526 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่ราชพัสดุรายนี้อยู่ในความปกครองดูแลรักษาของกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นนิติบุคคล มีอธิบดีเป็นผู้แทนอายุความฟ้องผู้ทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ราชพัสดุดังกล่าวจึงเริ่มนับแต่วันที่อธิบดีกรมธนารักษ์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน มิใช่นับตั้งแต่วันที่29 มิถุนายน 2526 ซึ่งเป็นวันที่นาวาอากาศตรีประกอบเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยทั้งสองดังที่จำเลยที่ 2 ฎีกา ข้อเท็จจริงได้ความว่า นายวิโรจน์เลาหพันธ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ทราบจากผู้บัญชาการทหารอากาศที่แจ้งให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม2527 โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 19 ธันวาคม 2528 ยังไม่พ้นหนึ่งปีคดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share