คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างผู้เล่น จำเลยทั้งสองและโจทก์ทั้งสิบเอ็ดต่างเป็นลูกวงแชร์ ต่างมีความผูกพันต้องส่งเงินตามที่ตกลงกันในการเล่นและย่อมมีสิทธิในการเข้าประมูลระหว่างลูกวงแชร์ด้วยกัน จึงต้องมีความผูกพันต่อกันหาใช่จะผูกพันเฉพาะแต่นายวงแชร์ไม่ เมื่อจำเลยทั้งสองเป็นผู้ประมูลได้และรับเงินไปแล้ว จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าไม่มีความผูกพันกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดไม่ได้ การที่นายวงแชร์หลบหนีสัญญาแชร์จึงเลิกเล่นกันก่อนที่จะมีการประมูลกันในงวดต่อไป คู่กรณีจึงกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยทั้งสองต้องส่งเงินที่รับไปคืนโจทก์ทั้งสิบเอ็ด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสิบเอ็ด จำเลยทั้งสองนางจันทร์แรม พุ่มเจริญ และผู้มีชื่ออื่น ๆ อีก ร่วมกันเล่นแชร์2 วง จำเลยทั้งสองประมูลได้เงินแชร์ทุกมือไปแล้ว ต่อมานางจันทร์แรม นายวงแชร์หลบหนี แชร์ทั้งสองวงจึงเลิกกัน จำเลยทั้งสองต้องคืนเงินที่รับไปเกินจำนวนที่ตนส่งเข้าวงแชร์ทั้งสองวงให้แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ด ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองคืนเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองให้การว่า นายวงแชร์มีหน้าที่เก็บเงินจากลูกวงทั้งหมดมอบให้แก่ลูกวงที่ประมูลแชร์ได้ จึงเป็นข้อตกลงหรือสัญญาระหว่างนายวงแชร์กับลูกวงแต่ละคนเท่านั้น ระหว่างลูกวงด้วยกันไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันโจทก์ทั้งสิบเอ็ดไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดต่อโจทก์ทั้งสิบเอ็ดขอให้ยกฟ้องศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ทั้งสิบเอ็ด จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าโจทก์ทั้งสิบเอ็ดจำเลยทั้งสอง นางจันทร์แรม พุ่มเจริญและผู้มีชื่อคนอื่นอีกได้ร่วมเล่นแชร์กัน 2 วง ตามฟ้องโดยมีนายจันทร์แรมเป็นนายวงแชร์ทั้ง 2 วง และจำเลยทั้งสองประมูลได้เงินแชร์ไปครบจำนวนแล้วต่อมานางจันทร์แรมหลบหนี แชร์ทั้ง 2 วง จึงเลิกเล่นกัน คดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า จำเลยทั้งสองมีความผูกพันกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดและโจทก์ทั้งสิบเอ็ดมีอำนาจฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า การเล่นแชร์เป็นสัญญาชนิดหนึ่งเกิดขึ้นจากความตกลงระหว่างผู้เล่นจำเลยทั้งสองและโจทก์ทั้งสิบเอ็ดต่างเป็นลูกวงแชร์ทั้ง 2 วง ที่นางจันทร์แรมเป็นนายวงแชร์ ต่างก็เข้าร่วมเล่นแชร์ทั้ง 2 วง ด้วยกันดังนั้นย่อมถือได้ว่าจำเลยทั้งสองกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดและลูกวงแชร์คนอื่น ๆ ต่างมีความผูกพันต้องส่งเงินตามที่ตกลงกันในการเล่นและย่อมมีสิทธิในการเข้าประมูลระหว่างลูกวงแชร์ด้วยกัน ดังนั้น จึงต้องมีความผูกพันต่อกันหาใช่จะผูกพันเฉพาะแต่นายวงแชร์ไม่ สำหรับนางจันทร์แรมที่เป็นนายวงแชร์นั้น เป็นการกำหนดตัวบุคคลให้เป็นผู้รับภาระรับผิดชอบรวบรวมเงินจากลูกวงแชร์ทุกคนเพื่อส่งมอบแก่สมาชิกอื่นผู้ประมูลได้ตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อจำเลยทั้งสองเป็นผู้ประมูลได้และรับเงินไปแล้วนายวงแชร์ได้เก็บเงินค่าแชร์จากโจทก์ทั้งสิบเอ็ดและลูกวงแชร์ไปเพื่อชำระให้จำเลยทั้งสองแล้ว ยังจะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปจนกว่าจะครบจำเลยทั้งสองจะอ้างว่าไม่มีความผูกพันกับโจทก์ทั้งสิบเอ็ดนั้นฟังไม่ขึ้นและคดีนี้เมื่อโจทก์นำสืบว่าการเล่นแชร์ทั้ง 2 วง มีข้อตกลงกันว่าผู้ประมูลได้และรับเงินไปแล้ว จะต้องชำระเงินค่าแชร์ทุกงวดจนกว่าจะครบจำเลยทั้งสองก็มิได้นำสืบปฏิเสธความข้อนี้ ดังนั้นจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ประมูลเงินแชร์ไปได้แล้ว จึงมีหน้าที่ผูกพันจะต้องส่งเงินคืนแก่ผู้ที่ยังไม่ได้ประมูล โจทก์ทั้งสิบเอ็ดเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ประมูล นางจันทร์แรมนายวงแชร์หลบหนี สัญญาแชร์ทั้ง 2 วงจึงเลิกเล่นกันก่อนที่จะมีการประมูลกันในงวดต่อไป คู่กรณีจึงกลับคืนสู่ฐานะเดิม จำเลยทั้งสองต้องส่งเงินที่รับไปคืนโจทก์ทั้งสิบเอ็ดเมื่อจำเลยทั้งสองไม่ยอมคืน โจทก์ทั้งสิบเอ็ดจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองให้คืนเงินนั้นได้”
พิพากษายืน

Share