คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยสร้างฝายและขุดเหมืองเพื่อส่งน้ำจากคลองสาธารณะไปใช้ในการทำนา แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตให้จัดทำชลประทานส่วนบุคคล ก็ต้องอยู่ในบังคับที่ว่าจะต้องปฏิบัติการมิให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของผู้อื่นด้วย เมื่อจำเลยใช้สิทธิสร้างฝายและขุดลำเหมืองเป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าของนาได้รับความเสียหาย โจทก์ย่อมมีสิทธิจะขอให้ปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายนั้นให้สิ้นไป เช่น ให้จำเลยรื้อหรือเปิดฝายหรือถมลำเหมืองนั้นได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อหรือเปิดฝายและถมลำเหมืองในชั้นอุทธรณ์ จำเลยขอทุเลาการบังคับ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตได้มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และจำเลยได้รื้อฝายและถมลำเหมืองไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะบังคับให้จำเลยจัดการแก้ไขฝายและลำเหมืองอย่างใดอีก ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยละเมิดสิทธิโจทก์ โดยทำฝายปิดกั้นขึ้นใหม่ที่คลองน้ำพายเหนือฝายโจทก์ ชื่อฝายกกฉำฉา และขุดเหมืองซอยทำให้น้ำไม่ไหลไปสู่ฝายของโจทก์ โจทก์เสียหายไม่มีน้ำทำนา ขอให้บังคับจำเลยเปิดฝายกกฉำฉาและถมลำเหมืองดังกล่าว
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมีอำนาจโดยชอบในการทำชลประทานส่วนบุคคลโดยได้รับใบอนุญาตจากทางราชการ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า แม้จำเลยจะได้รับอนุญาตจากอำเภอ การกระทำของจำเลยก็เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะเกิดการเสียหายแก่โจทก์และชาวนาซึ่งอยู่ใต้ฝายกกฉำฉา จึงเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ละเมิดสิทธิโจทก์ทั้งใบอนุญาตที่ออกให้จำเลยก็ไม่ถูกต้องและไม่มีผลพิพากษาให้จำเลยรื้อหรือเปิดฝายกกฉำฉาให้อยู่ในสภาพเดิม และให้ถมลำเหมืองซอยสีแดงหมาย ๑ตามแผนที่ท้ายฟ้อง จากคันเหมืองคลองน้ำพายไปจนถึงลำเหมืองซอยเหมืองเดิม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ทำฝายกกฉำฉาโดยชอบแต่ฝายของจำเลยกีดขวางทางน้ำสาธารณะตามความในพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ และทำให้พวกโจทก์ได้รับน้ำน้อยกว่าปกติ โจทก์เสียหายโดยจำเลยเป็นผู้ละเมิด พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจัดการแก้ไขฝายและเหมืองจนกว่าโจทก์จะได้รับน้ำตามปกติตลอดไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ทำชลประทานส่วนบุคคลแล้วจำเลยได้สร้างฝายกกฉำฉาและเหมืองขึ้น ในการที่จำเลยสร้างฝายและเหมืองขึ้นเช่นนี้เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย
ศาลฎีกาพิเคราะห์เห็นว่า กรณียังไม่จำต้องวินิจฉัยว่าใบอนุญาตที่ให้จำเลยจัดทำชลประทานส่วนบุคคลตามเอกสารหมาย ล.๑ สมบูรณ์มีผลใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่เพราะแม้จะฟังว่าใบอนุญาตนั้นใช้ได้การที่จำเลยสร้างฝายและขุดเหมืองเพื่อส่งน้ำจากคลองสาธารณะไปใช้ในการทำนา ก็ต้องอยู่ในบังคับที่ว่าจะต้องปฏิบัติการมิให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ของผู้อื่นด้วย เมื่อจำเลยใช้สิทธิสร้างฝายและขุดลำเหมืองเป็นเหตุให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าของนาได้รับความเสียหาย โจทก์ย่อมมีสิทธิจะขอให้ปฏิบัติการเพื่อยังความเสียหายนั้นให้สิ้นไป เช่น ให้จำเลยรื้อหรือเปิดฝาย และถมลำเหมืองนั้นได้ อนึ่ง ปรากฏว่าในชั้นอุทธรณ์ จำเลยขอทุเลาการบังคับคดี แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต ได้มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และบัดนี้จำเลยได้รื้อฝายกกฉำฉาตามฝายสีแดงหมาย ค. และได้ถมลำเหมืองซอยสีแดงหมาย ง. ไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะบังคับให้จำเลยจัดการแก้ไขฝายและลำเหมืองอย่างใดอีก ชอบที่จะบังคับคดีไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share