คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3681/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวนหนึ่งได้จำหน่ายไปแล้วส่วนหนึ่ง ยังคงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสองกรรม คือมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน
จำเลยจำหน่ายเฮโรอีนให้แก่สายลับของเจ้าพนักงานที่ไปล่อซื้อ แม้สายลับไปซื้อเพื่อแสวงหาหลักฐานในการจับกุมจำเลยก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะจำหน่ายเฮโรอีนอยู่ก่อนแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีน ๑ ห่อกับอีกครึ่งหลอดกาแฟไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเฮโรอีน ๑ ห่อ อันเป็นส่วนหนึ่งของเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ฐานมีเฮโรอีนโดยมิได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๑๕, ๖๖, ๙๗, ๑๐๒, ๑๐๓ ริบเฮโรอีนของกลางและคืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ ลงโทษฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายจำคุก ๕ ปี ฐานจำหน่ายเฮโรอีนจำคุก ๕ ปี รวมสองกระทงจำคุก ๑๐ ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก ๑๕ ปีริบเฮโรอีนของกลาง คืนธนบัตรของกลางให้เจ้าพนักงาน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า หลังจากจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนให้แก่สายลับไป ๑ ห่อแล้ว เจ้าหน้าที่ยังค้นได้เฮโรอีนที่กระเป๋ากางเกงของจำเลยอีก ๑ หลอด แสดงให้เห็นว่าจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนให้สายลับไป ๑ ห่อแล้ว จำเลยยังมีเฮโรอีนเหลืออยู่ในครอบครองอีก ๑ หลอด จำเลยจึงมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ๑ ห่อกับ ๑ หลอด แม้เฮโรอีน ๑ ห่อที่จำเลยจำหน่ายให้สายลับเป็นเฮโรอีนส่วนหนึ่งของเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายการกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกัน เพราะการมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายเฮโรอีนเป็นความผิดซึ่งอาศัยเจตนาในการกระทำผิดแตกต่างแยกจากกันได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรม หาใช่ความผิดกรรมเดียวดังจำเลยฎีกาไม่
ที่จำเลยฎีกาว่า นายอนันตเดชให้สายลับไปล่อซื้อเฮโรอีนจากจำเลยก็เพื่อความประสงค์สร้างพยานหลักฐานในการจับกุมกล่าวหาเป็นความผิดของจำเลยเท่านั้น พยานโจทก์มิได้มีความประสงค์ในการซื้อเฮโรอีนโดยแท้จริง จึงเท่ากับไม่มีเจตนาในการซื้อเฮโรอีนจากจำเลย จำเลยจึงไม่มีความผิดนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนให้แก่สายลับที่นายอนันตเดชส่งไปล่อซื้อจากจำเลยแล้ว แม้สายลับไปซื้อเพื่อแสวงหาหลักฐานในการจับกุมจำเลยก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีน เพราะจำเลยมีเจตนาที่จะจำหน่ายเฮโรอีนอยู่ก่อนแล้ว
ศาลฎีกาเห็นว่าคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา พิพากษาแก้เป็นว่าลดโทษให้แก่จำเลยหนึ่งในสาม

Share