คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ทำสัญญาว่าจ้างให้โจทก์ปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัยการที่จะฟังว่าจำเลยรับมอบบ้านพิพาทจำต้องมีข้อเท็จจริงให้ได้ความชัดถึงการแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายของจำเลยว่ายอมรับมอบบ้านพิพาท การที่จำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านพิพาทเป็นเรื่องที่จำเลยปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านเท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าการที่จำเลยย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านพิพาทก็เพื่อนำบุตรเข้าศึกษาต่อในกรุงเทพมหานครและโจทก์ก็นำสืบว่าจำเลยยังไม่ได้รับมอบบ้านพิพาทเช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่า จำเลยรับมอบบ้านพิพาทจากโจทก์ โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ปลูกสร้างบ้านและครัวเป็นเงินค่าจ้างทั้งค่าของและค่าแรงงานรวม 471,150 บาท โดยแบ่งชำระเป็นงวด ๆตามส่วนของงานที่จะมีการส่งมอบและรับมอบกันในแต่ละช่วง จำเลยจะมาตรวจรับมอบงานภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากโจทก์ ถ้าจำเลยไม่มาตรวจรับมอบงานตามกำหนดหรือในกรณีที่ถือได้ว่าจำเลยเข้าครอบครองต่อเติม หรือกระทำด้วยประการหนึ่งประการใดในอาคารดังกล่าว ก็ให้ถือว่าจำเลยได้รับมอบงานแล้วโดยปริยาย เมื่อโจทก์ปลูกสร้างบ้านเสร็จ จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้วไม่มาตรวจรับตามสัญญา ทั้งได้เข้าครอบครองอาคารดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยรับรองงานแล้วโดยปริยาย จำเลยจะต้องชำระค่าจ้างที่ค้างพร้อมดอกเบี้ย แต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้ปลูกสร้างบ้านให้ถูกต้องและเสร็จตามสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิรับเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย และเนื่องจากโจทก์ปลูกบ้านไม่แล้วเสร็จ จำเลยต้องเข้าดำเนินการเองคิดเป็นเงิน 100,000 บาทโจทก์ผิดสัญญาจำเลยขอคิดค่าเสียหายวันละ 200 บาทเป็นเงิน 57,200 บาทขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระค่าเสียหายแก่จำเลย

โจทก์ให้การฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้ผิดสัญญา โจทก์ส่งมอบบ้านให้จำเลยแล้วภายในกำหนดตามข้อสัญญา ขอให้ยกฟ้องแย้งโจทก์

ระหว่างสืบพยานโจทก์ คู่ความท้ากันในประเด็นเดียวกันการที่จำเลยย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านที่ก่อสร้าง จะถือว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างไปจากโจทก์แล้วหรือไม่เป็นข้อแพ้ชนะ หากถือว่าจำเลยยังไม่ได้รับมอบแล้วโจทก์ยอมแพ้ ถ้าถือว่าจำเลยได้รับมอบบ้านพิพาทแล้วจำเลยยอมแพ้ โดยขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นที่ท้าเพียงข้อเดียว ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วประกอบกับสัญญาข้อ 6 สำหรับประเด็นอื่น ๆ โจทก์จำเลยยอมสละทั้งสิ้นจำเลยไม่ติดใจบังคับตามฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างจากโจทก์แล้ว โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้าพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านพิพาทเป็นเรื่องที่จำลยปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องการแจ้งทะเบียนบ้านเท่านั้นจะแปลไปว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างแล้วยังไม่ได้เพราะการที่จำเลยรับมอบบ้านพิพาทหรือไม่นั้น จำต้องมีข้อเท็จจริงให้ได้ความชัดถึงการแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายของจำเลยว่ายอมรับมอบบ้านพิพาทแต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยยังไม่ได้รับมอบบ้านพิพาท ทั้งได้ความจากจำเลยว่า จำเลยย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในบ้านพิพาทเพื่อนำบุตรเข้าศึกษาต่อในกรุงเทพมหานคร ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงว่าจำเลยมารับมอบบ้านพิพาท ดังนี้ การที่จำเลยย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านพิพาทถือไม่ได้ว่าจำเลยรับมอบบ้านที่ก่อสร้างจากโจทก์ โจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

พิพากษายืน

Share