คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2554

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ส. ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ไปจดทะเบียนขายที่ดิน แต่ตราบใดที่ยังมิได้ไปจดทะเบียนขายที่ดิน การขายก็ยังไม่มีขึ้นโดยสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้ทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 456 วรรคหนึ่ง เมื่อ ส. ถึงแก่ความตาย หนังสือมอบอำนาจย่อมสิ้นผล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 826 วรรคสอง การที่ ป. นำหนังสือมอบอำนาจที่สิ้นผลแล้วไปดำเนินการจดทะเบียนขายที่ดินหลังจาก ส. ถึงแก่ความตายแล้ว จึงไม่มีผลให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ต้องโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินคืนกองมรดกของ ส. เพื่อประโยชน์ของทายาทต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบทรัพย์สินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของนางสุดใจ คืนกองมรดกทั้งหมด เพื่อโจทก์จะได้จัดการแบ่งปันให้แก่ทายาทต่อไป กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของทรัพย์มรดกที่เป็นเงินสดนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดคืนกองมรดก
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 58855 เลขที่ดิน 6280 ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางสุดใจ กับให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท คำขออื่นให้ยก ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 ให้เป็นพับ
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
โจทก์ไม่ชำระค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในส่วนที่ขาดอยู่ให้ครบถ้วนภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ให้จำหน่ายคดีในส่วนอุทธรณ์ของโจทก์ออกจากสารบบความศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้นางสาวสมหทัยจะมีเจตนาโอนขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแก่จำเลยที่ 1 โดยทำหนังสือมอบอำนาจให้นายปัญญาไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ แต่การซื้อขายที่ดินดังกล่าวยังไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายจนกว่าจะได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคหนึ่ง ดังนั้นเมื่อปรากฏว่านางสาวสมหทัยถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2538 ซึ่งมีผลให้หนังสือมอบอำนาจที่นางสาวสมหทัยมอบอำนาจให้นายปัญญาไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 สิ้นผล และนายปัญญาเพิ่งไปดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยอาศัยอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจที่สิ้นผลแล้วดังกล่าวนายปัญญาจึงหามีอำนาจดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 ไม่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจึงยังคงเป็นมรดกของนางสาวสมหทัยและตกไปยังนางสุดใจ ตามที่นางสมหทัยระบุไว้ตามพินัยกรรม ต่อมาเมื่อนางสุดใจถึงแก่ความตายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว จึงเป็นทรัพย์มรดกของนางสุดใจซึ่งจะต้องมอบให้แก่โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางสุดใจเพื่อดำเนินการแบ่งปันแก่ทายาทของนางสุดใจต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share