แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นทหารประจำการ โจทก์บรรยายฟ้องว่าได้ร่วมกระทำผิด กับพวกอีกคนหนึ่งที่เป็นพลเรือน และทางพิจารณาก็ได้ความว่าจำเลยสมคบกับพวกอีกคนหนึ่งที่ยังจับตัวไม่ได้ร่วมกันกระทำผิด ประกอบกับ เจ้าพนักงานตำรวจผู้สืบสวนจับกุมยืนยันว่า คนร้ายอีกคนหนึ่งนั้นเป็น พลเรือน คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลพลเรือนที่จะทำการพิจารณาพิพากษา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นทหารประจำการกับพวกอีก 1 คนซึ่งเป็นพลเรือนได้ร่วมกันกระทำผิดโดยว่าจ้างรถยนต์แท๊กซี่ให้ไปส่งแล้วใช้อาวุธจ่อจี้บังคับให้หยุดรอแล้วลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง ให้จำคุกจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นทหารประจำการได้ร่วมกระทำผิดกับพวกอีกคนหนึ่งที่เป็นพลเรือนและทางพิจารณาก็ได้ความตามคำพยานว่า จำเลยทั้งสองได้สมคบกับพวกอีกคนหนึ่งที่ยังจับตัวไม่ได้ ร่วมกันกระทำผิดซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจผู้สืบสวนจับกุมจำเลยก็ยืนยันว่าได้สืบทราบว่าคนร้ายอีกคนหนึ่งนั้นเป็นพลเรือน คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลพลเรือนที่จะทำการพิจารณาพิพากษา
พิพากษายืน