คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2902/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศและค่าติดตั้งแทนบริษัท ค. จึงเป็นการยอมรับว่าจำเลยกระทำในฐานะตัวแทนของบริษัท ค. มิใช่การกระทำในฐานะส่วนตัว ดังนั้นบริษัท ค. ซึ่งเป็นตัวการมีข้อต่อสู้อย่างไรต่อโจทก์ จำเลยในฐานะตัวแทนย่อมยกข้อต่อสู้นั้นขึ้นต่อสู้โจทก์ได้เช่นกัน กรณีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นข้อต่อสู้ระหว่างจำเลยผู้ถูกฟ้องกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงคนปัจจุบันโดยตรง หาใช่เป็นข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน จึงไม่ต้องห้ามตาม ป.พ.พ. มาตรา 916 แต่อย่างใด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 214,219 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 200,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยนำข้อต่อสู้ของบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด ที่มีต่อโจทก์มาอ้างเพื่อปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คพิพาท ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าเครื่องปรับอากาศและค่าติดตั้งแทนบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด จึงเป็นการยอมรับว่าจำเลยกระทำในฐานะตัวแทนของบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด มิใช่การกระทำในฐานะส่วนตัว ดังนั้นบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวการมีข้อต่อสู้อย่างไรต่อโจทก์ จำเลยในฐานะตัวแทนย่อมยกข้อต่อสู้นั้นขึ้นต่อสู้โจทก์ได้เช่นกัน กรณีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นข้อต่อสู้ระหว่างจำเลยผู้ถูกฟ้องกับโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงคนปัจจุบันโดยตรง หาใช่เป็นข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้สั่งจ่ายหรือกับผู้ทรงคนก่อน จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 แต่อย่างใด ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ที่โจทก์ฎีกาต่อไปว่า จำเลยต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คพิพาท เพราะบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด ไม่ชำระราคาเครื่องปรับอากาศโดยการอายัดเช็ค เป็นการผิดสัญญาต่างตอบแทนต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามหนังสือรับประกันนั้น เห็นว่า โจทก์ยอมรับมาในฎีกาว่า โจทก์ขายเครื่องปรับอากาศพร้อมติดตั้งและดูแลซ่อมบำรุง การชำระหนี้ของโจทก์จึงมิใช่เพียงการส่งมอบเครื่องปรับอากาศพร้อมติดตั้ง แต่ยังต้องบริการดูแลซ่อมบำรุงด้วยจนครบอายุการรับประกัน ตามหนังสือรับประกันดังกล่าว และโจทก์ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศรถยนต์ให้ใช้งานได้ตามปกติ โจทก์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยและบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด อายัดเช็คหลายฉบับรวมทั้งเช็คพิพาทโดยไม่มีเหตุผล จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา ข้อนี้ได้ความจากจำเลยว่า การติดตั้งเครื่องปรับอากาศมีจำนวน 6 ชุด 22 เครื่อง ซึ่งแสดงจำนวนรถยนต์ที่นำไปติดตั้งแต่ละชุด หมายเลขรถ ทะเบียนรถ วันจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และวันครบกำหนดสัญญาประกัน เช็คพิพาทสั่งจ่ายเป็นค่าติดตั้งเครื่องปรับอากาศชุดที่ 5 จำนวน 3 คัน ชำรุดเสียหาย ซึ่งโจทก์ไม่ได้นำสืบโต้แย้งเป็นอย่างอื่น จึงฟังได้ว่าเช็คพิพาทจำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าติดตั้งเครื่องปรับอากาศชุดที่ 5 จริง ส่วนที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศให้ใช้งานได้ตามปกติแล้ว ก็มีแต่เพียงคำเบิกความของโจทก์เท่านั้น ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุน ฝ่ายจำเลยนอกจากจำเลยเบิกความยืนยันว่า โจทก์ไม่มาซ่อมแซมแก้ไขตามที่แจ้งไปแล้ว ยังต้องไปจ้างบุคคลภายนอกให้มาซ่อมแซมแก้ไข ตามใบรับของชั่วคราว โดยมีนายวีระชัย กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจีอีซี เจนเนอรัล เทรดดิ้ง จำกัด ตามหนังสือรับรองเบิกความเป็นพยานจำเลยว่า ทำการซ่อมแซมเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์ให้บริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด จำนวน 22 คัน ตามใบแจ้งซ่อม ซึ่งยังอยู่ในระยะเวลาการรับประกันของโจทก์ ทำให้พยานจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อกว่าพยานโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ไม่มาซ่อมแซมแก้ไขเครื่องปรับอากาศให้ จำเลยจึงต้องจ้างบุคคลภายนอกมาซ่อมแซมแก้ไขให้ จำเลยไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงย่อมมีสิทธิที่จะไม่ชำระเงินตามเช็คพิพาท ส่วนที่โจทก์อ้างมาในฎีกาว่า บริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องนางสาวติ๋ว และโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดนครปฐม เรียกค่าเสียหาย 2,000,000 บาท และศาลจังหวัดนครปฐมพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยและบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด จึงไม่อาจอ้างความเสียหายที่ไม่เกิดขึ้นจริงมาปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ จำเลยและบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงมีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์นั้น เห็นว่า คำพิพากษาศาลจังหวัดนครปฐม ตามที่โจทก์อ้างมาท้ายฎีกา เป็นกรณีที่บริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด ฟ้องนางสาวติ๋วและโจทก์เรียกค่าเสียหายเนื่องจากรถยนต์โดยสารปรับอากาศของบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด ที่ให้จำเลยที่ 1 ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเสียหายและยังอยู่ในระยะเวลาประกันคือรถยนต์โดยสารปรับอากาศคันหมายเลข 13 – 6864 หมายเลขข้างรถ 537 – 19 ซึ่งบริษัทคณะศยามยานยนต์ จำกัด แจ้งให้นางสาวติ๋วและโจทก์ทำการซ่อมแซมแล้ว แต่นางสาวติ๋วและโจทก์เพิกเฉย เมื่อพิจารณาตามตารางการติดตั้งเครื่องปรับอากาศรถยนต์โดยสารปรับอากาศ ปรากฏว่ารถยนต์โดยสารปรับอากาศคันหมายเลข 13 – 6864 หมายเลขข้างรถ 537 – 19 นั้น อยู่ในชุดที่ 6 แต่เช็คพิพาทคดีนี้สั่งจ่ายชำระหนี้ค่าติดตั้งเครื่องปรับอากาศชุดที่ 5 ซึ่งเป็นคนละชุดกัน จึงหาอาจนำมารับฟังดังที่โจทก์กล่าวอ้างมาได้ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมาให้ยกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share