แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง บัญญัติว่าผู้ใดโดยทุจริตซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ฯลฯ นั้น หมายความว่า การกระทำผิดจะต้องกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาวก. มีผลเป็นทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตัวนางสาวก.ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรกมาอยู่กับจำเลย ส่วนเหตุแห่งการได้ตัวมานั้นไม่ว่าจะได้มาโดยเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม แม้จำเลยมีเจตนาอย่างเดียวคือเป็นธุระจัดหาหญิงไว้เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น แต่การที่จำเลยจะได้นางสาวก.ไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นนั้น จำเลยรับซื้อเอานางสาวก.ผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากจากมารดามาไว้กับจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอีกอันหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง ด้วย ซึ่งเป็นความผิดต่างฐานกัน ต้องถือว่าเป็นเจตนาอีกอันหนึ่งต่างหาก การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยจำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาวเกี๋ยงคำ จอมขันเงินผู้เยาว์ อายุ 17 ปีเศษ ซึ่งถูกพรากไปจากมารดาเพื่อหากำไรและเพื่อการอนาจารโดยนางสาวเกี๋ยงคำเต็มใจไปด้วย จำเลยเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นได้เป็นธุระจัดหานางสาวเกี๋ยงคำ นางบัวจันทร์การู อายุ 15 ปีเศษ นางสาวอนงค์ สิงห์คำ นางหน่อย จันเป็งนางสุมาลี จันทิมา นางอ้อย อินคำก้อน นางยุพิน ใจจริตนางนวล คำเอื๊อย นางดา ธรรมสิทธิ์ และนางไก่ อินตแก้วซึ่งมีอายุเกิน 18 ปี เพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยนางสาวเกี๋ยงคำกับพวกยินยอม และจำเลยเป็นเจ้าของกิจการสถานค้าประเวณี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 282, 319, 91 พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 มาตรา 9
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 282 วรรคสอง, 319 วรรคสอง, 91 พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 มาตรา 9 ลงโทษฐานเป็นธุระจัดหาเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่นให้จำคุก 3 ปี กระทงหนึ่ง ฐานซื้อหรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากไปจากมารดาเพื่อหากำไรและเพื่อการอนาจารโดยทุจริต โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ให้จำคุก 3 ปี กระทงหนึ่งและฐานเป็นเจ้าของกิจการสถานค้าประเวณี ให้จำคุก 3 เดือน อีกกระทงหนึ่ง รวม 3 กระทงเป็นจำคุก 6 ปี 3 เดือน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78หนึ่งในสาม คงจำคุก 4 ปี 2 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสองบัญญัติว่า ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ฯลฯ นั้น หมายความว่า การกระทำผิดจะต้องกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ ดังนั้นที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อหรือรับตัวนางสาวเกี๋ยงคำผู้เยาว์นั้น คำว่า ซื้อหรือ รับตัวมีผลเป็นทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตัวนางสาวเกี๋ยงคำผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรกมาอยู่กับจำเลย ส่วนเหตุแห่งการได้ตัวมานั้นไม่ว่าจะได้มาโดยเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็เป็นความผิดเช่นเดียวกัน คำฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม และวินิจฉัยต่อไปว่า แม้ความมุ่งหมายในการกระทำของจำเลยจะมีอย่างเดียวคือเป็นธุระจัดหาหญิงไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่น แต่การที่จำเลยจะได้นางสาวเกี๋ยงคำผู้เยาว์ไว้เพื่อสำเร็จความใคร่ของผู้อื่นนั้น จำเลยรับซื้อเอานางสาวเกี๋ยงคำผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากจากมารดามาไว้กับจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอีกอันหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคสอง ด้วย เพื่อบรรลุผลตามความมุ่งหมายซึ่งเป็นความผิดต่างฐานกัน ต้องถือว่าเป็นเจตนาอีกอันหนึ่งต่างหาก ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรม
พิพากษายืน