คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนพิพากษาใช้ดุลพินิจส่งตัวจำเลยไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(5) แล้ว จำเลยฎีกาขอให้เปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นฎีกาต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 29 และมาตรา 27 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2506

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีปืนพกชนิดทำเอง ขนาด .22ใช้ยิงได้ไม่มีเลขหมายทะเบียน 1 กระบอก กับกระสุนปืน 10 กว่านัดไว้ในครอบครองไม่รับอนุญาตและร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรแล้วร่วมกันใช้ปืนนั้นยิงนายวิเทศ อดุลยประภากร ด้วยเจตนาฆ่าถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลอาญา มาตรา 288, 371, 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 และ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 กับขอให้ริบของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อหาร่วมกันยิงผู้ตายมีเหตุน่าสงสัยข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และพกพาไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร โจทก์ไม่มีพยานยืนยัน พิพากษายกฟ้องแต่วางเงื่อนไขคุมประพฤติให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติมีกำหนด 4 เดือนต่อครั้ง ในระยะ 2 ปี ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 64 ของกลางริบ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนฟังว่า จำเลยที่ 2 กระทำผิดในข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และพาไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร พิพากษาแก้ จำเลยที่ 2 กระทำผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4)พ.ศ.2510 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 จำเลยกระทำผิดขณะมีอายุ 15 ปีเศษยังไม่สมควรพิพากษาลงโทษ เห็นสมควรให้ส่งตัวจำเลยที่ 2 ไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางจนกว่าจำเลยที่ 2 จะมีอายุสิบแปดปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(5)และให้ยกเลิกเงื่อนไขคุมประพฤติที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางวางกำหนดไว้สำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง

จำเลยที่ 2 ฎีกาขอให้เปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์เป็นว่าใหยกโทษปล่อยตัวจำเลยที่ 2

ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 29 และมาตรา 27 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2506 มาตรา 7 ห้ามอุทธรณ์ฎีกาในกรณีที่ศาลใช้ดุลพินิจตามมาตรา 74(1) และ (5) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฉะนั้น คดีนี้เมื่อศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจให้ส่งตัวจำเลยที่ 2 ไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง จนกว่าจำเลยที่ 2 จะมีอายุสิบแปดปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74(5) แล้วจำเลยที่ 2 จะฎีกาขอให้เปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา 27(1) และมาตรา 29

พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 2

Share