แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มีคำขอให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินจำนวนแน่นอน จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ เมื่อศาลเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์มีมูลและไม่ขัดต่อกฎหมาย ศาลย่อมมีคำสั่งให้โจทก์ส่งพยานเอกสารที่ศาลเห็นว่าจำเป็นแทนการสืบพยานได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 198 ทวิ วรรคสาม (1) แล้วพิพากษากำหนดจำนวนเงินไปตามที่ได้ความจากพยานเอกสารนั้นได้ แม้ไม่เต็มจำนวนตามคำขอของโจทก์ โดยถือว่าคดีในส่วนที่ศาลไม่พิพากษาให้เป็นเพราะโจทก์ไม่มีพยานเอกสารแสดงให้ศาลเห็นว่าคดีส่วนนั้นมีมูล ทั้งบทบัญญัติดังกล่าวก็มิได้บังคับศาลว่าต้องพิพากษากำหนดจำนวนเงินเต็มตามคำขอของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยคืนเงินดาวน์แก่ผู้มีชื่อซึ่งเป็นผู้บริโภคหลายคน พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินซึ่งผู้บริโภคแต่ละรายได้ชำระให้แก่จำเลยไป นับแต่วันที่แต่ละคนได้ชำระเงินให้จำเลยเป็นครั้งสุดท้ายเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินคืนแก่ผู้ซึ่งมีชื่อซึ่งเป็นผู้บริโภคพร้อมดอกเบี้ยจนกว่าจะชำระเสร็จ สำหรับค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความนั้น เนื่องจากโจทก์ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมและโจทก์ว่าความเอง จึงไม่กำหนดให้
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาซื้อขายบ้านและที่ดินจัดสรร โดยจำเลยได้รับเงินจากผู้บริโภคไปแล้วไม่ดำเนินการตามสัญญา ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่ผู้บริโภคไม่เต็มตามฟ้องชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๘ ทวิ วรรคสาม (๑) บัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่โจทก์มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินจำนวนแน่นอน ให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ส่งพยานเอกสารตามที่ศาลเห็นว่าจำเป็นแทนการสืบพยาน จะเห็นได้ว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวมิได้มีข้อความบังคับศาลว่าจะต้องพิพากษาไปตามคำขอของโจทก์ทุกประการ บทบัญญัติที่กำหนดให้ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและให้ส่งพยานเอกสารแทนนั้นเป็นเพียงเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการพิจารณาคดีเท่านั้น และศาลอาจพิพากษาให้ไม่เต็มตามคำขอก็ได้ หากพยานเอกสารไม่เพียงพอ ซึ่งถือได้ว่า คดีไม่มีมูลในส่วนที่ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดง ดังนั้น เมื่อศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานเอกสารมาแสดงประกอบให้ศาลเห็นว่าคดีมีมูลจริง ศาลย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่พิพากษาให้ในส่วนที่ไม่มีพยานเอกสารมาแสดง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.