แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
คดีโจทย์ฟ้องว่า เมื่อเวลาเที่ยงคืนระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๑ นายนะจำเลยกับพวก ๗-๘ คนถืออาวุธเข้าปล้นทรัพย์บ้านนายเนียม ตำบลบันแค จังหวัดพัทลุงผู้ร้ายเก็บเอาทรัพย์ไปได้รวมราคา ๒๗๑ บาท ต่อมาพนักงานจับนากของกลางได้ที่นางสีทองจำเลย ขอให้ลงโทษจำเลยตามลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ – ๓๒๑ – ๓๒๒ กับให้ใช้ทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยทั้ง ๒ ให้การปฏิเสธข้อหา นายนะจำเลยต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ นางสีทองจำเลยต่อสู้ว่านากที่จับมานั้นเปนของนางสีทอง ฯ
ศาลจังหวัดพัทลุงทำความเห็นเสนออธิบดี ๆศาลมณฑลนครศรีธรรมราชเห็นชอบด้วย ฟังข้อเท็จจริงว่าเมื่อวันเวลาที่โจทย์หามีผู้ร้าย ๗ คนถืออาวุธแลคบเพลิงเข้าปล้นทรัพย์บ้านนายเนียม ผู้ร้ายได้เอาเท้าถีบนางหนูให้บอกที่เก็บทรัพย์ แลได้เอาปืนขู่นายบุตร นางแป้นซึ่งนอนอยู่บนเรือนเจ้าทรัพย์มิให้ลุกขึ้น แล้วผู้ร้ายค้นเก็บเอาทรัพย์ไปได้ตามบาญชีท้ายฟ้องรวมราคา ๒๗๑ บาท นายบุตร นางแป้นเบิกความยืนยันว่า จำผู้ร้ายได้ ๒ คน คือนายนะจำเลยกับนายวาง พยานอธิบายว่าขณะปล้นนายนะสรวมเสื้อดำเขนสั้นมีผ้าโพกสีสะ แลติดหนวดดำเคราดำมือถือได้แลพร้ายืนห่างพยานวาเศษ นายวางถือพร้า แต่คนที่ถือปืนจ้องจะยิงพยาน ๆ ไม่รู้จัก แต่นายนะจำเลยพยานรู้จักมา ๒-๓ ปีแล้ว ไม่มีสาเหตุต่อกัน พอผู้ร้ายเก็บของได้พากันไปแล้ว พยานได้บอกชื่อผู้ร้ายแก่นายเนียม แลรุ่งขึ้นนายเล็กผู้ทำการแทนอำเภอไปไต่สวน พยานก็ได้บอกชื่อผู้ร้ายแก่นายเล็ก ๆ จึงจับนายนะจำเลยไป แต่นายวางพลบหนีจับตัวไม่ได้ ค้นได้นาค ๑ แท่งจากเรือนนางสีทองมารดานายวางนากนี้เจ้าทรัพย์ว่าเปนของเจ้าทรัพย์ ฝ่ายนางสีทองก็ว่าเปนของนางสีทอง แต่ข้อโต้เถียงนี้เปนอันระงับไปด้วยโจทย์ขอถอนชื่อนางสีทองออกจากฟ้องในระหว่าง
พิจารณาแล้ว แลโจทย์มีคำนายเนียมและนายเล็กผู้ไต่สวนเบิกความประกอบว่า นายบุตรนางแป้นได้บอกชื่อผู้ร้ายแก่พยานในขณะนั้นจริง ฝ่ายพยานฐานที่ของนายนะจำเลยเบิกความแตกต่างกัน หาควรฟังมาหักล้างพยานโจทย์ได้ไม่ คดีควรฟังได้ว่านายนะจำเลยมีพวกเข้าปล้นทรัพย์รายนี้ไปจริงดุจข้อหา พิพากษาว่านายนะจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑ ตอนต้น ให้ลงโทษจำคุกนายนะจำเลย ๑๒ ปี กับให้ใช้ราคาทรัพย์เปนเงิน ๒๗๑ บาทแก่เจ้าทรัพย์ ถ้าใช้ไม่ได้ให้จำไถ่ตามมาตรา ๑๘ ฯ
นายนะจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษพิพากษายืนตาม ฯ
นายนะจำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ประชุมปฤกษาคดีนี้ตลอดแล้ว ข้อเท็จจริงโจทย์มีสักขีพยานเบิกความยืนยันมั่นคงเปนหลักฐานฟังได้ถนัดเพราะขณะทำการปล้นจำเลยเปนผู้ถือไฟ พยานได้เห็นจำเลยใกล้ ๆ แลพยานรู้จักกับจำเลยมาก่อน หามีเหตุเคลือบแคลงสงสัยไม่ ที่ศาลล่าง
ปฤกษาวางบทลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นให้ยกเสีย ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลล่างนั้น ฯ