คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2420/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะไม่ยอมให้โจทก์ถอนฟ้อง แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลอื่นๆ โดยทั่วไปประกอบ เช่น ความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์ และผลได้ผลเสียของคู่ความเป็นต้น
จำเลยอ้างว่าใบมอบอำนาจตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องไม่สมบูรณ์ หากพิจารณาคดีไปแล้ว ศาลต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ ก็มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลยกฟ้องเพราะได้วินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาท โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ทั้งคำฟ้องก็ชอบด้วยกฎหมายแล้ว การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอเพิ่มเอกสารหมายเลข 4 ท้ายฟ้องจากเดิม 1 แผ่น เป็น 24 แผ่น ภายหลังที่มีการชี้สองสถานแล้วนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะไม่อนุญาตให้แก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ก็มีสิทธิที่จะอ้างอิงเอกสารเหล่านี้ในชั้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดประกอบเอกสารหมายเลข 4 ท้ายฟ้อง หากโจทก์จะถอนฟ้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อไปโดยไม่ถอนฟ้อง ก็หาทำให้จำเลยได้เปรียบหรือเสียเปรียบแตกต่างจากกันไม่ จึงควรอนุญาตให้ถอนฟ้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากโจทก์ ยังค้างชำระเงินอยู่ ๖๘๑,๗๓๗.๙๒ บาท จำเลยที่ ๒ จำนองที่ดินค้ำประกันในวงเงิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๓ จำนองที่ดินค้ำประกันในวงเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ขอให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ไถ่ถอนจำนอง
จำเลยที่ ๑ ให้การว่า ได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์ในวงเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท มีจำเลยที่ ๒ จำนองที่ดินค้ำประกัน ๑๕๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๓ ค้ำประกันในวงเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท จำนวนเงินที่ค้างชำระโจทก์กับพวกทำขึ้นโดยไม่สุจริต ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องไม่สมบูรณ์
จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองรับว่าได้จำนองที่ดินค้ำประกันจำเลยที่ ๑ ตามฟ้องจริง จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ได้บอกเลิกสัญญาค้ำประกันแล้ว จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด จำนวนเงินตามเอกสารที่โจทก์ฟ้องเป็นเท็จ ฟ้องเคลือบคลุมและหนังสือมอบอำนาจไม่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นชี้สองสถาน และนัดสืบพยาน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้เพิ่มเติมฟ้อง จำเลยทั้งสามคัดค้าน โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยทั้งสามคัดค้าน
ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น โดยให้ยกคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้จำเลยทั้งสามจะคัดค้านไม่ยอมให้โจทก์ถอนฟ้องก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาลโดยพิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลอื่นๆ โดยทั่วไปในคดีประกอบ เช่น ความสุจริตในการดำเนินคดีของโจทก์ และผลได้ผลเสียของคู่ความเป็นต้น คดีนี้จำเลยต่อสู้ว่าใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่สมบูรณ์ ไม่มีลายมือชื่อผู้รับมอบอำนาจสำเนาหนังสือมอบอำนาจตามเอกสารท้ายฟ้องมิได้ปิดอากรแสตมป์ ๑๐ บาท จึงไม่ชอบ ยอดหนี้จำนวน ๖๘๑,๗๓๗.๙๒ บาท ตามบัญชีกระแสรายวันตามเอกสารหมายเลข ๔ ท้ายฟ้องนั้นเป็นเอกสารเท็จ โจทก์กับพวกทำขึ้นโดยไม่สุจริต สัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีในวงเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เหตุใดจึงมากขึ้นถึงจำนวน ๖๘๐,๗๓๗.๙๒ บาท ไม่มีตัวเลขเช่นนี้ในเอกสารหมายเลข ๔ ท้ายฟ้อง ไม่มีเอกสารใดอ้างอิงสนับสนุนให้ปรากฏชัดแจ้ง ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องทำให้จำเลยเสียเปรียบนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ทำให้จำเลยเสียเปรียบนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในข้อที่จำเลยอ้างว่า ใบมอบอำนาจตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องไม่สมบูรณ์นั้น หากพิจารณาคดีไปแล้ว ศาลต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ ก็มิใช่เป็นเรื่องที่ศาลยกฟ้องเพราะได้วินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาท โจทก์ย่อมนำคดีมาฟ้องใหม่ได้ ส่วนที่อ้างว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น เห็นว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงความเป็นมาในการที่จำเลยทั้งสามเป็นลูกหนี้โจทก์ และได้แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง คือหนังสือสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีของจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๕ หนังสือสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกันตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๖ โฉนดที่ดินที่จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ นำมาจำนองเป็นประกันตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๗ ยอดเงินที่จำเลยที่ ๑ เบิกเงินเกินบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของธนาคารโจทก์เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๒๒ เป็นเงิน ๖๘๑,๗๓๗.๙๒ บาท ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๔ เห็นว่าคำฟ้องของโจทก์และคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาพอที่จะให้จำเลยทั้งสามเข้าใจข้อหาได้ดี เป็นการชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ แล้ว การที่โจทก์มายื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องขอเพิ่มเอกสารหมายเลข ๔ ท้ายฟ้องจากเดิม ๑ แผ่น เป็น ๒๔ แผ่น โดยขอเพิ่มเติมอีก ๖๓ แผ่นภายหลังที่มีการชี้สองสถานแล้วนั้น แม้ศาลชั้นต้นจะไม่อนุญาตให้แก้ไขเพิ่มเติม โจทก์ก็มีสิทธิที่จะอ้างอิงเอกสารเหล่านี้ในชั้นพิจารณาได้ เพราะเป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดประกอบเอกสารหมายเลข ๔ ท้ายฟ้อง หากโจทก์จะถอนฟ้องหรือดำเนินคดีนี้ต่อไปไม่ถอนฟ้องก็หาทำให้จำเลยได้เปรียบหรือเสียเปรียบแตกต่างจากกันไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นสมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีนี้ได้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษากลับ อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น

Share