แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามกฎหมายบัญญัติบทความผิดและบทลงโทษไว้คนละ มาตรา ย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่ามีความประสงค์ที่จะแยก ความผิด 2 ฐานนี้ออกจากกันทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภทแสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกัน และความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีไว้ ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกชนิดทำเองจำนวน 1 กระบอก ไม่มีหมายเลขทะเบียนและเครื่องหมายประจำอาวุธปืนของเจ้าพนักงาน กับมีกระสุนปืนเล็กยาว เอ็ม.16 จำนวน 1 นัด ใช้ยิงไม่ได้ อันเป็นเครื่องกระสุนปืนใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กับพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในที่ชุมนุมชนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริงและการมหรสพโดยไม่มีเหตุอันสมควร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ, 55, 78 ฯลฯ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ฐานมีอาวุธปืนจำคุก 1 ปี ฐานพกพาอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน ฐานมีกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 3 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 9 เดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องข้อหามีกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามและขอให้รอการลงโทษหรือลดโทษ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองครั้งเดียวคราวเดียวกันเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ, 55, 78 แต่ให้ลงโทษฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55, 78 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักจำคุก 2 ปี รวมกับโทษฐานพกพาอาวุธปืนที่ศาลชั้นต้นจำคุก 6 เดือน เป็นจำคุก 2 ปี 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 3 เดือน ของกลางริบ
โจทก์ฎีกาว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนกับฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ขอให้ลงโทษทุกกรรมตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 มีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามเป็นความผิดตามมาตรา 55, 78 การที่กฎหมายบัญญัติบทความผิดและบทลงโทษไว้คนละมาตราย่อมเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายได้ว่า มีความประสงค์จะแยกความผิด 2 ฐานนี้ออกจากกัน ทั้งวัตถุของกลางก็เป็นคนละประเภท แสดงว่าเจตนามีไว้แตกต่างกันและความผิดแต่ละประเภทสำเร็จแล้วนับแต่มีไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีไว้ในวันเวลาเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น