แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยขุดทรายในแม่น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ทรายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และรถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกทรายซึ่งขุดได้จากแม่น้ำ ถือว่าเป็นยานพาหนะที่ได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 108 ทวิ วรรคท้าย จึงต้องริบ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำการจ้างขุดทรายในแม่น้ำเลย อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทประชาชนใช้ร่วมกันและเป็นบริเวณที่หวงห้ามเป็นการทำลาย ทำให้เสื่อมสภาพ และทำให้เป็นอันตรายแก่แม่น้ำ ที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทรายอันเป็นทรัพยากรในที่ดิน โดยจำเลยไม่มีสิทธิครอบครองและมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108, 108 ทวิ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์2515 ข้อ 11 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบรถยนต์และพลั่วของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้วคงจำคุก 15 วัน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกให้รอไว้2 ปี รถยนต์ของกลางไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ให้คืนเจ้าของของกลางนอกนั้นริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ริบรถยนต์ของกลาง นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำฟ้องของโจทก์และคำรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยทำการจ้างขุดทรายในแม่น้ำเลยอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทประชาชนใช้ร่วมกัน และจำเลยใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกทรายที่จำเลยขุดได้ มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่ารถยนต์ของกลาง จำเลยได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่ารถยนต์ของกลางจำเลยใช้บรรทุกทรายที่จำเลยขุดได้จากแม่น้ำเลย อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การขุดทรายเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ทรายตามประกาศกระทรวงมหาดไทยท้ายฟ้อง ถือได้ว่ารถยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะที่ได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิวรรคท้าย ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 96ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2515 ข้อ 11 จึงต้องริบรถยนต์บรรทุกของกลาง
พิพากษายืน.