แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องว่า “จำเลยได้เซ็นเช็คธนาคารศรีนครจำกัดจ่ายเงินสดเพื่อเป็นการชำระหนี้เป็นเงิน 15,000 บาท ” แล้วกล่าวเรื่องนำเช็คไปขึ้นไม่ได้เงิน ในที่สุดว่า “โจทก์ก็ได้นำเช็ครายนี้ไปเรียกเก็บจากจำเลยหลายครั้งจำเลยก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมาและได้ให้ทนายบอกกล่าวกำหนดวันให้จำเลยชำระเงินตามเช็ครายนี้จำเลยก็ไม่ชำระให้โจทก์ “ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องสำหรับฟ้องเรียกเงินตามเช็คแต่อย่างเดียวเท่านั้น หาใช่เป็นการฟ้องเรียกเงินตามมูลหนี้เดิมไม่
อายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงิน(เช็คก็เป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง) ฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คมีเวลาภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด ม.1002
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2499)
ย่อยาว
เมื่อ ๒๘ ก.ย.๙๖ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเซ็นเช็คจ่ายเงินสดให้โจกท์ เมื่อ ๒๙ ก.ย.๙๓ เพื่อเป็นการชำระหนี้ ๑๕,๐๐๐ บาท เช็คนั้นรับเงินไม่ได้ โจทก์จึงเรียกจากจำเลย ๆ ผัด จึงฟ้องเรียกเงินและดอกเบี้ย จำเลยต่อสู้ว่าเมื่อโจทก์รับเงินไม่ได้ จำเลยจ่ายเงินสดให้ไป คดีขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นว่าฟ้องไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยใช้เงินโจทก์ ๑๕,๐๐๐ บาท กับดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คอย่างเดียว คดีขาดอายุความตาม ม.๑๐๐+ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่าฟ้องโจทก์กล่าวแต่เพียงว่า “จำเลยได้เซ็นเช็คธนาคารศรีนครจำกัดจ่ายเงินสดให้โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้เป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท ” แล้วประโยคต่อไปก็กล่าวในเรื่องนำเช็คไปขึ้นไม่ได้เงิน ในที่สุดว่า “โจทก์ได้นำเช็ครายนี้ไปเรียกเก็บจากจำเลยหลายครั้ง จำเลยก็ขอผัดผ่อนเรื่อยมาและได้ให้ทนายบอกกล่าวกำหนดวันให้จำเลยชำระเงินตามเช็ครายนี้ จำเลยก็ไม่ชำระให้โจทก์” ดังนี้ศาลนี้เห็นว่าเป็นการฟ้องสำหรับฟ้องเรียกเงินตามเช็ค แต่อย่างเดียวเท่านั้น เพราะแม้แต่การทวงถามและการบอกกล่าวก็เป็นการเรียกเก็บเงินและบอกกล่าวตามเช็ค
ปัญหาต่อไปจึงมีว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่ ตาม ป.พ.พ.ม.๑๐๐๒ บัญญัติไว้ว่าในคดีผู้ทรงตั๋วเงินฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนังแต่วันที่ได้ลงในคำคัดค้านซึ่งได้ทำขึ้นภายในเวลาอันถูกต้องตามกำหนดหรือนับแต่วันตั๋วเงินถึงกำหนด ในกรณีที่มีข้อกำหนดไว้ว่า “ไม่จำต้องมีคำคัดค้าน” เช็คก็เป็นตั๋วเงินชนิดหนึ่ง และ ม.๙๘๙ วรรค ๒ ให้บัญญัติไว้ว่า “ถ้าเป็นเช็คที่ออกมาแต่ต่างประเทศท่านให้นำบทบัญญัติดังต่อไปนี้มาบังคับด้วยคือ บท ม.๙๒๔,๙๖๐ ถึง ๙๖๔ ฯลฯ ” ม.๙๖๐ เป็นบทบัญญัติที่บังคับไว้ว่าการที่ตั๋วแลกเงินขาดความเชื่อถือจะต้องทำคำคัดค้าน ฉนั้นถ้าเป็นเช็คที่ออกภายในประเทศคำคัดค้านก็ไม่จำต้องมีอายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงินฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คจึงมีเวลาภายในประเทศคำคัดค้านก็ไม่จำต้องมีอายุความในการที่ผู้ทรงตั๋วเงินฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คจึงมีเวลาภายใน ๑ ปี พิพากษายืน แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่